ศธ.จ่อเชือดข้าราชการเอี่ยวคดีทุจริต

โดย ACT โพสเมื่อ May 10,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ - -

 

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ปัญหาการทุจริต ศธ. ว่า ที่ประชุมได้รายงานผลการสืบสวนของกรณีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ที่ขณะนี้ความเสียหายอยู่ที่ 77 ล้านบาท และในส่วนของข้าราชการ ศธ. ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด 25 ราย ซึ่งจากการสรุปความผิดพบว่า มีผู้ทุจริตต่อหน้าที่ถือว่าอยู่ในขั้นวินัยร้ายแรง จำนวน 4 ราย รวมนางรจนา สินทีด้วย ซึ่งคงต้องมีการตั้งคณะกรรมการสวบสวนวินัยต่อไป ส่วนผู้บริหารระดับสูงประมาณ 20 รายที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการ ส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้นประมาทเลินเล่อ และคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานจะดำเนินการตามกระบวนการฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งผู้ที่ร่วมกระทำผิดโดยการเปิดบัญชีนั้นอาจจะมีโทษฐานฟอกเงินด้วย

รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการสืบข้อเท็จจริงกรณีการเช่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตของระบบ MOENet ศธ. พบว่า มีมูลความผิด และตนได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรืออควาเรียมของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา ซึ่งและ ปปง.ให้เข้ามาดำเนินการเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รายงานความคืบหน้ากรณีโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรืออควาเรียมของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงได้สรุปเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งตนคาดว่าผลการสืบสวนจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้ และตนยังได้ส่งเรื่องให้ทาง ป.ป.ช. ดำเนินการในส่วนของคดีอาญา เนื่องจากมีอดีตข้าราชการระดับสูงของ ศธ.เข้ามาเกี่ยวข้องหลายราย

ด้าน พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศธ.ในฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ปัญหาการทุจริต ศธ. กล่าวว่า นพ.ธีระเกียรติให้มีการขยายผลการตรวจสอบโครงการก่อสร้างหลังคาคลุมลานอเนกประสงค์ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 45 แห่ง หลังจากพบว่าโครงการของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 45 แห่ง หลังจากพบว่าโครงการดังกล่าวดำเนินการไม่เป็นไปตามระเบียบของราชการจริงจำนวน 11 โรง ซึ่งมีผู้ที่จะต้องถูกดำเนินการทางวินัยร้ายแรงจำนวนหลายราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้อำนวยการโรงเรียน หลังจากนี้ สพฐ.จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป.

 

 

 

 

 

 

 

 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน