ประเด็นร้อน
คอร์รัปชันกับเครื่องมือทางการเมือง
โดย ACT โพสเมื่อ Apr 26,2018
- - ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์ - -
คอลัมน์ ท่านขุนน้อย : ณ ลีลาแห่งบุปผากระบี่
เห็นท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านยังพอมีเวลาไปตีกอล์ฟแถวๆซุ้มมือปืนนครปฐม มีช่วงจังหวะว่างๆ พอที่จะรจนาบทเพลงชนิดเพลงแล้ว เพลงเล่า ออกมาไม่ขาดสาย มีโอกาสพบปะกับดารา นักร้อง นักมวย นักจัดรายการวิทยุ ฯลฯ แถมสามารถออกมือ ออกไม้ เต้นย็อกๆ แย็กๆ ควบคู่ไปกะเขาด้วย และอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย จนไม่น่าจะถึงกับการงาน รัดตัว ชนิดกระดิกกระเดี้ยอะไรแทบไม่ได้...
มันก็เลยน่าคิด น่าตั้งข้อสังเกต อยู่ตามสมควร ว่าเหตุใดท่านถึงจึงยังไม่อาจหาช่วงจังหวะเหมาะๆ มาร่วมประชุม หารือ กับคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ "คตช." ที่ตัวท่านเองเป็นประธานกรรมการ จนเลขาธิการองค์กรฯ อย่าง ดร. มานะ นิมิตรมงคล ต้องออกมาโพสต์โน่น โพสต์นี่ หลังจากแถกเหงือกรอคอยการประชุมมาเกือบร่วมปี หรือประมาณ 8 เดือนเข้าไปแล้ว ในช่วงปี พ.ศ.2561 ซึ่งยังไม่ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชุดนี้เอาเลยแม้แต่น้อย ขณะที่ปีทั้งปี หรือนับแต่ปีที่แล้ว พ.ศ.2560 ประชุมกันไปแค่ 2 ครั้งเท่านั้นเอง!!!
คือเรื่องของการทุจริต คอร์รัปชัน ต้องถือเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องโต มิใช่น้อย...และก็ต้องถือเป็นเรื่องชอบแล้ว เหมาะแล้ว ที่ท่านนายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช.ท่านได้ออกคำสั่งแต่งตั้ง ก่อรูป ก่อร่าง คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ คตช. ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว (คำสั่ง คสช.ที่ 127/2557) ด้วยการดึงเอาผู้คนในภาคเอกชน ระดับเชื่อได้ ไว้ใจได้ ไม่ว่าประเภทคุณ ประมนต์ สุธีวงศ์ ที่พยายามเป็นหัวหอกขับเคลื่อนเรื่องราวเหล่านี้มาโดยตลอด คุณ บรรยง พงษ์พานิช คุณ จุรี วิจิตรวาทการ คุณ ต่อตระกูล ยมนาค ฯลฯ เข้ามาหลอมรวมกับผู้ซึ่งมีอำนาจ หน้าที่ ในภาครัฐ เพื่อร่วมถักทอ บูรณาการ ให้ภารกิจในการขจัด กวาดล้าง คอร์รัปชัน เป็นเรื่องของสังคมทั้งสังคม ไม่ใช่โยนภาระให้เป็นเรื่องของรัฐบาลใด รัฐบาลหนึ่ง กันโดยเฉพาะ...
แม้ว่าโดยอำนาจ หน้าที่ ขององค์กรที่ว่านี้...จะไม่ได้ถึงกับเป็นตัวชี้วัด ตัดสิน บรรดาพฤติกรรมการคอร์รัปชันทั้งหลาย อย่างเช่นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่โดยตรง แต่ถ้าหากใช้ถูก ใช้เป็น องค์กรดังกล่าวก็น่าที่จะก่อให้เกิด ความร่วมมือ-ร่วมใจ เกิดความเป็น ประชารัฐ ในการสร้างแนว ป้องกัน จนอาจไม่ต้องเสียเวลา ปราบปราม อย่างที่ต้องตามไล่บี้ ไล่เช็ด อะไรต่อมิอะไรซึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อสิบปี ยี่สิบปีที่แล้ว ไม่ว่าประเภทโกงเงินเด็ก โกงเงินผู้ยากไร้ โกงเงินวัด ฯลฯ อะไรทำนองนั้น ที่ออกอาการ ฝีแตก, หนองไหล อยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้ การดึงเอาคนดีๆ เชื่อได้ ไว้ใจได้ จากภาคเอกชนมาหลอมรวมกับภาครัฐ ได้อย่างลงตัวเช่นนี้ ถ้าหากให้เวลา ให้โอกาส ที่จะ ขับเคลื่อน กันจริงๆ การขจัดกวาดล้างคอร์รัปชันให้หมดไปจากสังคมไทย ก็อาจกลายเป็นเรื่องจริงๆ จังๆ เป็นเรื่องเชื่อได้ หวังได้ ไม่ใช่เป็นแค่ เครื่องมือทางการเมือง ดังที่เด็กๆ อย่างคุณน้อง ธนาธร ไทยซัมมิต แห่งพรรคอนาคตใหม่ หรืออนาคตเราไม่รู้ ถึงไม่รู้ก็ต้องเดินไป ก็แล้วแต่จะเรียก ท่านหยิบเอามากระแทก แดกดัน ผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร แบบชนิดกะจะกิน 2 ต่อเข้าฮอสได้แบบสบายๆ...
แต่ก็ด้วยเหตุเพราะมันไม่ค่อยออกไปทางจริงๆ จังๆ ปีที่แล้วทั้งปี ประชุมกันไปแค่ 2 ครั้ง ปีนี้เกือบจะครบปียังไม่คิดจะเริ่มประชุม ยังต้องเจียดเวลาไปแต่งเพลง ไปตีกอล์ฟ ไปสูบๆ ดูดๆ อะไรต่อมิอะไรไปตามเรื่อง ตามราว หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจทราบได้ มันเลยจะไปเถียงเด็กๆ อย่างคุณน้อง ธนาธร เค้าลำบากอยู่เหมือนกัน เพราะเรื่องราวทำนองนี้...ถ้าหากไม่มุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจให้เห็นกันชัดๆ มันก็อาจกลายเป็นแค่ เครื่องมือทางการเมือง ที่เอาไว้ประหัต ประหาร กันและกันของบรรดาผู้แสวงหาอำนาจทั้งหลายได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ เหมือนอย่างผู้คนต่างบ้าน ต่างเมือง เช่น เจ้าชาย MbS (Mohammad bin Salman) มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุฯ ท่านควักออกมาใช้เล่นงานบรรดาสมาชิกในราชวงศ์ อัล-ซาอุด จับเจ้าชาย รัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี นับเป็นร้อยๆ เอามาขังไว้ที่โรงแรมริชท์ ก่อน เรียกค่าไถ่ แล้วปล่อยตัวไปตามเงื่อนไข ที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่ออำนาจตัวเองไปตามสภาพ...
ต่างไปจากผู้คนต่างบ้าน ต่างเมือง อีกราย...อย่างประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน รายนั้น...แม้จะมีการมองว่าเป็นแค่ เครื่องมือทางการเมือง อยู่บ้าง แต่สุดท้าย...เมื่อการแสดงออกถึงความจริงจัง จริงใจ มันปรากฏออกมาแบบชัดๆ ชนิดไม่ว่าเพื่อน พ้อง น้อง พี่ แหวนแม่-นาฬิกาเพื่อน ต่างถูกจับเอามา เด็ดหัว กันไปเป็นรายๆ ไม่ว่าจะเป็น เสือ หรือ แมลงวัน ก็ตาม ด้วยการมุ่งมั่นขจัดกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชันแบบนี้นี่แหละ ที่ทำให้บรรดาปวงชนชาวจีนทั้งหลาย จึงเกิดอาการ ทนสีได้ ไม่ใช่แค่ สีทนได้ หรือเกิดความยินยอม พร้อมใจ ที่จะให้ประธานาธิบดีผู้นี้ อยู่ยาวว์ว์ว์ ชนิดอาจมากซะกว่า ยุทธศาสตร์ 20 ปี ของเมืองไทย สามารถอยู่กันชนิดตายไปข้างเอาเลยก็ยังได้ ไม่ต้องเสียเวลาปวดหัวกับการดูด การสูบส้วม ไม่ว่าโถใด บ่อใด เอาเลยแม้แต่น้อย...
พูดง่ายๆ ว่า...มันจะเป็นแค่ เครื่องมือทางการเมือง หรือเป็นเรื่องจริงๆ จังๆ อันมีบ่อเกิดมาจากความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ตั้ง ก็ขึ้นอยู่กับ การแสดงออก ของบุคคลนั้นๆ นั่นเอง ว่าออกไปในแนวไหน แบบไหน ด้วยเหตุนี้...การปล่อยให้คณะกรรมการ คตช.ที่ตัวเองเซ็นคำสั่งแต่งตั้งมากับมือ นั่งปอกกล้วยในบ้านร้างอยู่เพียงลำพัง ปีทั้งปี...ได้เจอหน้ากัน 2 ที ปีนี้เกือบจะครบปี สัญญา พรนารายณ์ ก็ยังไม่คิดจะโผล่มาให้เห็น ทุกสิ่งทุกอย่าง...มันก็เลยออกไปทาง เจ้าเปลี่ยนไป...หัวใจเหมือนถูกปืน...แทบล้มทั้งยืน...สะอื้นอกตรม...จากไร่ไปหาเงินตราชวดชม...วิมานพี่ล่มลืมสัญญา...เมื่อสายัณห์ ตาลับตั๊บๆ ตาหล่าลาลา ตาลับตั๊บๆ ตาหล่าลา ไปด้วยประการละฉะนี้...แล...เทอญญ์ญ์ญ์...
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก George Eliot ... Our deed determine us, as much as we determine our deeds.-การกระทำตัดสินเรา..เท่าๆ กับที่เราตัดสินใจกระทำการนั้นๆ...
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน