'บิ๊กตู่' หนุนสอบเงินทอนวัด ยันทุจริตต้องสอบสุดซอย

โดย ACT โพสเมื่อ Apr 25,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์ - -

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีเครือข่ายชาวพุทธ พลังแผ่นดินเข้ายื่นหนังสือให้ปลด พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นั้น อยากถามกลับว่า เขายังไม่ได้กล่าวหาว่าใครทำผิดหรือถูกแล้วทำไมถึงต้องออกมาเคลื่อนไหว ทำอย่างนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

ทั้งนี้ ต้องย้อนกลับไปดูว่าเรื่องนี้เริ่มมาจากการทุจริตในสำนักงาน พศ. จะถูกหรือผิดก็ต้องว่ากันไป แต่ในทางกฎหมายต้องสอบสวนว่าเงินเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหนบ้าง บัญชีเป็นของใคร เขายังไม่ได้ว่าใครผิดหรือถูก แล้วจะมาเคลื่อนไหวอะไรกัน ถ้าชี้แจงได้ และถูกต้องตามกฎหมาย ก็จบไป

"ผมเคารพพระทุกรูปที่อยู่ในกระบวนการทุกองค์ ผมบอกแล้วว่า เรื่องนี้มันเริ่มมาจากข้าราชการ มาจากสำนักพุทธฯ ก็ต้องไปดูว่าเงินไปที่ไหน ก็ไปสอบที่นั่น และที่สุดก็ไปลงโทษเฉพาะข้าราชการ อย่างนี้มันก็ไม่เป็นธรรมน่ะสิ กฎหมายบังคับใช้กับ ทุกคน ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ต้องทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น" นายกฯ กล่าว

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงาน พศ. กล่าวว่า ยังต้องการให้ พ.ต.ท.พงศ์พร ทำงานอย่างเต็มที่ และยืนยันว่ากรณี มีข่าวว่าการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งล่าสุด พระที่เป็นกรรมการ มส.บางรูปไม่พอใจต่อการทำหน้าที่ของ พ.ต.ท.พงศ์พร นั้นไม่เป็นความจริงเพราะการประชุมราบรื่นดี ทั้งนี้เชื่อว่าพระผู้ใหญ่เข้าใจ การดำเนินการของ พศ.ดี อะไรที่ถูกว่าไปตามถูก อะไรที่ไม่ถูกให้ว่าไปตามนั้น

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.00 น. กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน และกลุ่มเครือข่ายองค์กรพระพุทธศาสนา นำโดยนายจรูญ วรรณกสิณานนท์ และ น.อ.วินัย เสวกวิ นำหลักฐาน การยื่นแจ้งความของ พ.ต.ท.พงศ์พร ที่แจ้งความเอาผิดกับพระสงฆ์ 5 รูป ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดล็อต 3 กับ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เพื่อให้เอาผิดกับ พ.ต.ท.พงศ์พร ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อมาในช่วงบ่ายได้เดินทางมายื่นหนังสือที่ศูนย์บริการประชาชนสำนักงาน ก.พ. เรียกร้องให้นายกฯ ออกคำสั่ง คสช.มาตรา 44 ปลด พ.ต.ท.พงศ์พร

นายจรูญ กล่าวว่า ผู้อำนวยการ พศ.มีหน้าที่สนองงานคณะสงฆ์ให้เจริญรุ่งเรือง แต่การไปร้องเรียนว่าพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดไม่ใช่หน้าที่ตามกฎหมาย นำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา และสร้างวิกฤตศรัทธาต่อพุทธศาสนิกชน

น.อ.วินัย กล่าวว่า พระสงฆ์ถือกฎหมาย 2 ฉบับ ฉบับแรกคือพระธรรมวินัย เมื่อถูกกล่าวโทษก่อนจะถึงกฎหมายบ้านเมือง ต้องร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินการทางพระธรรมวินัยต่อคณะผู้ปกครองสงฆ์ เพื่อให้พระสงฆ์จัดการกันเองก่อน คฤหัสถ์ไม่มีอำนาจปกครองสงฆ์ หากพระสงฆ์ไม่จัดการกันเอง ถึงไปร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่จะต้องถอดเครื่องแบบผู้อำนวยการ พศ.ออกแล้วไปร้องทุกข์ในฐานะประชาชนธรรมดา