ประเด็นร้อน

สั่ง 'สหกรณ์ฯรถไฟ' คืนเงิน 2 พันล้าน

โดย ACT โพสเมื่อ Jan 15,2018

- - สำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ - -

 

"กรมส่งเสริมสหกรณ์" ตั้งสอบทุจริต บอร์ดสหกรณ์สโมสรรถไฟ ปล่อยกู้ 6 รายซื้อที่ดิน 199 สัญญา เรียกคืนเงิน 2,285 ล้านบาท พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบสางการบริหารงาน

 

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรม ส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด จ่ายเงินกู้พิเศษ ให้สมาชิก 6 ราย รวม 199 สัญญา เป็นเงิน 2,285 ล้านบาท ซึ่งการจ่ายเงินกู้ดังกล่าว ขัดกับระเบียบสหกรณ์ที่ได้กำหนดไว้ว่าในการจ่ายเงินกู้ให้กับสมาชิกกำหนดให้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ส่งผลทำให้สหกรณ์ ได้รับความเสียหายและส่งผลกระทบต่อสมาชิกโดยรวมตามมาในที่สุด

 

โดย สมาชิกทั้ง 6 ราย ได้นำเงินกู้ดังกล่าว ไปซื้อที่ดินที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และ ขณะนี้สหกรณ์ยังไม่ได้รับชำระหนี้คืนจากสมาชิก ดังนั้นนายทะเบียนสหกรณ์ จึงมีคำสั่ง ให้คณะกรรมการชุดที่อนุมัติเงินกู้อย่าง ไม่ถูกต้องตามระเบียบและก่อให้เกิดความเสียหายแก่สหกรณ์ดังกล่าว ชดใช้เงินคืนสหกรณ์ภายในวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา

 

แต่เมื่อครบตามกำหนดแล้วยังไม่มีการชำระหนี้คืนสหกรณ์ นายทะเบียนสหกรณ์จึงพิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 21 ร้องทุกข์ และฟ้องร้องดำเนินคดีแทนสหกรณ์ และจะใช้อำนาจตามมาตรา 22 (4) ตั้ง คณะกรรมการฯเข้ามาบริหารงานสหกรณ์ชั่วคราวตามที่กฎหมายกำหนด และให้เรียกเงินคืนสหกรณ์จนกว่าจะครบตามจำนวน

 

ทั้งนายทะเบียนสหกรณ์จะดำเนินการ ฟ้องร้องคณะกรรมการฯ ชุดที่ 7-11 ที่อนุมัติเงินกู้โดยขัดต่อระเบียบสหกรณ์ทำให้เสียหายเพื่อเรียกเงินคืนสหกรณ์ภายในสัปดาห์นี้จากการสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่า คณะกรรมการสหกรณ์ฯ ชุดที่ 7-11 มีบุคคล 2 คน เป็นประธานกรรมการมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันดำรงตำแหน่งและได้มีการอนุมัติจ่ายเงินกู้พิเศษเพื่อเคหะสงเคราะห์ให้กับคณะกรรมการสหกรณ์จำนวน 6 คนและมีการนำเงินออกจากสหกรณ์ ซึ่งเงินจำนวน 2,285 ล้านบาท ที่นำไปซื้อที่ดินประมาณ 600 ไร่นั้น

 

เชื่อว่าราคาที่ดินดังกล่าวไม่มี มูลค่าถึง 2,285 ล้านบาท แต่เป็นลักษณะการฟอกเงินจากสหกรณ์มากกว่า ทั้งนี้ ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดกับอดีตประธานกรรมการสหกรณ์และพวกได้ ซึ่งเกิดขึ้นในสหกรณ์ตั้งแต่ ปี 2555 เป็นต้นมา

 

ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา อาจจะมีปัญหาในเรื่องการกำกับดูแลสหกรณ์และการเข้าไปตรวจสอบสหกรณ์ที่ไม่เคร่งครัดเท่าที่ควร จึงส่งผลทำให้สหกรณ์มีการบริหารงานที่บกพร่องและเกิดความเสียหายในที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางกรมส่งเสริม สหกรณ์มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปตรวจสอบการดำเนินงานของสหกรณ์ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าหมายให้ดำเนินการภายในเวลา 3 ปี เพื่อป้องกันการ ทุจริต และความเสียหายที่ จะเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ ได้มีการตรวจสอบไปแล้วประมาณ 70% ยังเหลือเพียง 30% คาดว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ ภายในปีนี้

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw