ประเด็นร้อน
นายกฯโวปราบส่วยห้าง-ร้าน
โดย ACT โพสเมื่อ Nov 22,2017
- - สำนักข่าวไทยโพสต์ - -
"ประยุทธ์" ยันสอบตำรวจภูเก็ตรับส่วย ผิดถูกว่าตามพยานหลักฐาน บอกอย่าห่วงเป็นไปตามกลไกปกติ เผยสั่งการชุดพิเศษลงพื้นที่ตรวจสอบห้าง-ร้านถูกรีดไถ จนท.เกี่ยวข้องเจอโทษหนัก 2 เท่า
เมื่อวันอังคาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกรับส่วยกว่า 100 ล้านบาท ที่จังหวัดภูเก็ต ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่สอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้อง และย้ายตำรวจที่เกี่ยวข้องมา ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องตำรวจสอบตำรวจ เพราะถือว่าเป็นกลไกปกติ การตรวจสอบต้องไม่ทิ้งในทุกประเด็นออกไป ไม่ใช่ว่าจะตัดสินกันเองว่าผิดหรือถูก โดยทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน ทั้งทุจริต เก็บส่วย ความเชื่อมโยงระหว่างตำรวจกับฝ่ายปกครอง การขัดแย้งผลประโยชน์ การซื้อขายตำแหน่ง ฯลฯ ทั้งนี้ สามารถส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้รัฐบาลและตำรวจได้ โดยทุกคนต้องช่วยกันดู ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ปล่อยปละละเลยในปัญหาการทุจริต หลายคดีได้นำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ทั้งบุคคลทั่ว ไป นักการเมือง ซึ่งมีหลายคดีที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อน แต่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่สิ่งที่กังวลในวันนี้คือ การเรียกรับผลประโยชน์ในระดับล่างหลายๆ หน่วยงาน โดยอ้างชื่อคนโน้นคนนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้จัดชุดสายสืบพิเศษลงไปตรวจสอบ ทั้งห้างร้านที่เคยถูกเรียกรับส่วยเดือนละ 3 พัน 5 พันบาท ศุลกากร ให้ตรวจสอบทั้งหมด และขอประกาศว่าห้างร้านต่างๆ ไม่ต้องจ่ายเงินใครทั้งสิ้น ถ้าจับได้จะลงโทษคนทำเป็น 2 เท่า
"นอกจากนี้ยังได้สั่งการในที่ประชุม ครม. โดยกำชับรัฐมนตรี ผู้ใกล้ชิดรัฐมนตรี ว่าเมื่อสั่งการแล้ว สายงานจะต้องไม่ไปบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือพรรคพวก ถ้าเจอผมจะลงโทษทั้งหมด ผมเชื่อมั่น แต่ยังมีคนรอบๆ ตัวพวกเขาด้วย เพราะประเทศไทยมีระบบเครือญาติ หรือคนสนิท" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีมีการเปิดเผยขบวนการเรียกรับส่วย หาประโยชน์โดยมิชอบหลายพื้นที่ในแถบจังหวัดภาคใต้ว่า นายกฯ ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะเดียวกัน นายกฯ ก็มีเครือข่ายได้ส่งไปตรวจสอบข้อมูลอีกทางหนึ่งเช่นกัน อย่างไรก็ดี เรื่องนี้หากใครมีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่กระทำการทุจริต ประพฤติมิชอบ ขอให้ส่งข้อมูลมาทางศูนย์ดำรงธรรม สายด่วนสำนักนายกรัฐมนตรี 1111 สายด่วน คสช.111 หรือตามช่องทางอื่น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นอย่าคิดว่ารัฐบาลไปให้ท้ายจึงทำให้เกิดการทุจริต คำว่าคนในรัฐบาลมี 2 ส่วน 1.ในส่วนของคณะรัฐมนตรี ซึ่งส่วนนี้นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่า ไม่มีคิดที่จะประพฤติมิชอบ แต่ก็ไม่ได้ปิดประตูเสียทีเดียว หากใครมีข้อมูลอะไร ขอให้ส่งมาได้ตามช่องทางดังกล่าว 2.กลุ่มข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงาน ซึ่งไม่ได้เหมารวมว่ากลุ่มเหล่านั้นจะทุจริต ประพฤติมิชอบ เพราะในหน่วยงานก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ซึ่งใครมีข้อมูล ขอให้ส่งมาตามช่องทางที่ได้แจ้งไว้ได้เช่นกัน
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน