ประเด็นร้อน
ความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กร
โดย ACT โพสเมื่อ Oct 30,2017
- - สำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ - -
ดร.บัณฑิต นิจถาวร
เคยฉงนใจหรือไม่ว่าทำไมการทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกง การตบแต่งตัวเลขทางบัญชี การทุจริตคอร์รัปชัน จึงเกิดให้เห็นบ่อยในบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศที่ควรต้องมีระบบการควบคุมภายในและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ทำให้การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายได้กลายเป็นความเสี่ยงสำคัญของบางบริษัท
เรื่องนี้ ในหลายกรณี เมื่อเกิดขึ้นมักเป็นความผิดแบบตั้งใจของผู้ที่รับผิดชอบหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ ทำผิดแม้รู้ว่าผิด เป็นเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้ระบบตรวจสอบ หรือระบบการควบคุมภายในที่บริษัทได้วางไว้ ไม่สามารถยับยั้งหรือควบคุมได้ เพราะคนพร้อม หรือกล้าที่จะทำผิด
คำถามก็คือ แล้วคนแบบนี้อยู่ในองค์กรได้อย่างไรตั้งแต่ต้น และทำไมองค์กรไม่มีวัฒนธรรมที่จะหล่อหลอมป้องกันคน ในองค์กรไม่ให้ทำผิดกฎหมาย หรือเอาคนที่กล้าทำผิดกฎหมายให้ออกจากบริษัทไป เพราะถ้าคนกล้าที่จะทำผิด ระบบควบคุมต่างๆ ก็จะทัดทานได้ยาก
ในเรื่องนี้ จากเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กรณีของบริษัท โฟล์คสวาเกน เมื่อ 3 ปีก่อน ที่มีการโกงการวัดควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือกรณีของธนาคารเวลล์ฟาร์โก้ ที่สหรัฐ เมื่อ 2 ปีก่อน ที่พนักงานกว่า 4,000 คน ถูกให้ออก จากงาน เพราะเปิดบัญชีใหม่ให้กับลูกค้า โดยที่ลูกค้าธนาคารไม่ทราบเรื่อง เพียงเพราะ พนักงานต้องการทำเป้าการขาย
ทั้ง 2 กรณีชี้ถึงความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรคือ ถ้าวัฒนธรรมองค์กรอ่อนแอ ระบบควบคุมภายในหรือระบบป้องกันต่างๆ อย่างเดียวก็จะไม่สามารถหยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพนักงานหรือผู้บริหารได้ จึงสำคัญที่บริษัทต้องปลูกฝังหรือขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรด้านจริยธรรมที่เข้มแข็งให้เกิดขึ้น เพื่อช่วยบริษัทให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้พร้อมกับการทำธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีจริยธรรม เพราะถ้าการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น ความไว้วางใจหรือTrust ที่ลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องมีต่อบริษัทก็จะหายไป นำมาสู่การสูญเสียความน่าเชื่อถือในตัวบริษัท ในตัวผู้บริหารและในธุรกิจของบริษัท
ในสหรัฐ มีการอ้างถึงผลสำรวจ ความคิดเห็นเรื่องนี้ในงานสัมมนาปีนี้ จัดโดย สมาคมกรรมการบริษัทแห่งชาติของสหรัฐ (National Association of Company Directors) ที่ชี้ว่าประมาณ 47% ของประชาชน ทั่วไปไม่ไว้วางใจองค์กรต่างๆ ในการทำหน้าที่ ทั้งในภาครัฐและเอกชน ขณะที่อีก 52% ให้ความไว้วางใจ และอ้างถึงตัวเลขสำรวจความน่าเชื่อถือ (creditability) ของผู้นำองค์กรหรือซีอีโอที่ลดต่ำลงเหลือ 37% เป็นตัวเลขที่ต่ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ตัวเลขเหล่านี้ชี้ว่า ความไว้วางใจหรือ Trust ในโลกธุรกิจปัจจุบันกำลังลดลง จำนวนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ขาดความ ไว้วางใจต่อธุรกิจและการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้นๆ เป็นปัญหาที่กระทบภาพลักษณ์ของภาคธุรกิจ เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข และการแก้ไขก็ต้องเริ่มที่บริษัท ซึ่งเรื่องหนึ่งที่สามารถทำได้ก็คือคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารระดับสูงต้องให้ความสำคัญเรื่องวัฒนธรรมองค์กร เพราะวัฒนธรรมองค์กรสามารถเป็นกลไก ที่หล่อหลอมพฤติกรรมของคนในองค์กรให้ทำในเรื่องที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา ถ้าบริษัทมีวัฒนธรรมองค์กรที่ เข้มแข็ง โอกาสของการเกิดพฤติกรรม ที่ไม่ดีต่างๆ ก็จะลดลง ตรงข้ามถ้าวัฒนธรรมองค์กรอ่อนแอ ปัญหาต่างๆ ก็จะเกิดได้ง่ายขึ้น
ในทุกองค์กร วัฒนธรรมองค์กรจะ เกิดขึ้นโดยปริยาย เพราะเมื่อคนมาอยู่ร่วมกัน เป็นหมู่คณะ วัฒนธรรมองค์กรก็จะเกิดขึ้นด้วยตัวของมันเอง เป็นไปตามธรรมชาติ เป็นพฤติกรรมร่วมกันของคนที่อยู่ร่วมกัน ซึ่งจะสะท้อนพฤติกรรมที่คนส่วนใหญ่ เชื่อ ยอมรับ และพร้อมทำ
ในเรื่องนี้มีข้อสังเกตว่า แม้จะไม่มีการบอกกล่าวว่าอะไรควรไม่ควร พฤติกรรมองค์กรที่ออกมาจะสะท้อนสิ่งที่ผู้บริหารหรือผู้บังคับบัญชาทำเป็นสำคัญ เพราะพนักงานจะมองผู้บังคับบัญชาเป็นตัวอย่างว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ดูที่พฤติกรรมผู้บังคับบัญชา
ดังนั้นองค์กรที่มีปัญหามักจะมีวัฒนธรรมองค์กรที่อ่อนแอและต้นตอของปัญหาจะมาจากผู้บังคับบัญชาที่ละเลยเรื่องเหล่านี้ หรือบางครั้ง ปัญหาก็สะท้อนพฤติกรรมไม่ดี ที่ผู้บังคับบัญชาทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเห็นและผู้ใต้บังคับบัญชาทำตาม แม้จะเป็นเรื่องไม่ดี แต่ผู้บังคับบัญชาก็ทำ ด้วยเหตุนี้การหล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กรที่ดีมีจริยธรรมจึงสำคัญมาก เพราะสิ่งที่พนักงานและผู้บังคับบัญชาทำกระทบธุรกิจของบริษัท กระทบเป้าธุรกิจ กระทบชื่อเสียงและมูลค่าระยะยาวของบริษัท ถ้าบริษัทมีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง บริษัทก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ โดยไม่มีการทำผิดกฎหมาย ผิดกฎระเบียบหรือขาดจริยธรรม การทำธุรกิจของบริษัทจะสร้างความ พึงพอใจให้กับลูกค้าและบริษัทเป็นที่ยอมรับในสายตาคนนอก พนักงานจะภูมิใจ และบริษัทสามารถรักษาพนักงานที่มีคุณภาพให้อยู่กับบริษัทต่อไป ที่สำคัญวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งเป็นสินทรัพย์ที่สร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัท สามารถช่วยบริษัทให้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพราะพฤติกรรมพนักงานได้ถูกหล่อหลอมภายใต้ ค่านิยมเดียวกันที่จะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจของบริษัท
ในประเด็นนี้ นาย Howard Schultz ประธานบริหารของบริษัทสตาร์บัคส์ เคยกล่าวว่า "ความสามารถในการแข่งขัน อย่างเดียวที่บริษัทเขามีก็คือ วัฒนธรรมองค์กร และมูลค่า (the culture and values) ของบริษัท เพราะใครๆก็เปิดร้านขายกาแฟได้"
แล้วเราจะสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่เข้มแข็งให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
หน้าที่หลักในเรื่องนี้คงต้องมาจาก ผู้นำองค์กรคือ คณะกรรมการบริษัท ที่ต้องเป็นผู้เริ่ม โดยต้องยอมรับว่าวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการบริษัทต้องผลักดันให้เกิดขึ้นและ พร้อมมีส่วนร่วมในการผลักดันดังกล่าว อันนี้คือจุดแรก
จุดที่ 2 ก็คือ คณะกรรมการบริษัทและ ผู้บริหารต้องมีความเข้าใจร่วมกันว่าอะไรคือพฤติกรรมหรือค่านิยมที่ต้องการสร้างและผลักดันให้เกิดขึ้นในบริษัท และอะไรคือพฤติกรรมหรือค่านิยมที่จะไม่ยอมให้ เกิดขึ้นในบริษัท จุดนี้สำคัญมาก เพราะจะเป็น ข้อตกลงของการสร้างความเข้าใจร่วมกันว่าอะไรคือพฤติกรรมที่พึงประสงค์ที่บริษัทต้องการเห็นและต้องการให้เกิดขึ้นกว้างขวางในองค์กร เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และเป้าหมายทางธุรกิจของบริษัท เมื่อตกลงกันแล้วก็จะเป็นพฤติกรรมที่ทุกคนในบริษัทในทุกระดับ ตั้งแต่คณะกรรมการบริษัทถึงพนักงานต้องทำให้เกิดขึ้นร่วมกัน
จุดที่ 3 ก็คือ การขับเคลื่อน ซึ่งหมายถึง การวางระบบการควบคุมภายในที่เหมาะสม การจัดการอบรมเพื่อสร้างความเข้าใจ การทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง การติดตามประเมินผล และการตอบแทนหรือให้รางวัลผู้ที่ทำได้ดี ในเรื่องค่านิยมหรือวัฒนธรรมองค์กรให้เป็น แบบอย่าง พร้อมนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ในทุกเรื่อง ของบริษัท โดยเฉพาะการจ้างพนักงานและคัดเลือกผู้บริหารเพื่อให้ได้คนที่ตรงกับวัฒนธรรมองค์กรของบริษัท สิ่งเหล่านี้ต้องมาพร้อมกันหมด เพื่อสร้างพฤติกรรมที่เหมาะสมให้เกิดขึ้นกว้างขวางในองค์กร สนับสนุนโดยการ ทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทที่ เข้มแข็งจริงจังกับเรื่องวัฒนธรรมองค์กร โดยให้เวลา ติดตาม ทำตัวให้เป็นตัวอย่าง รวมถึง ดำเนินการเฉียบขาดเมื่อมีปัญหาที่ขัดกับค่านิยมขององค์กรเกิดขึ้น เหล่านี้จะนำไปสู่วัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งที่จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์หรือเป้าหมายทางธุรกิจของบริษัทให้ประสบความสำเร็จ สร้างความไว้วางใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อธุรกิจบริษัท นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีในภาคเอกชน วัฒนธรรมองค์กรขณะนี้เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมากและกำลังมีการขับเคลื่อนมากที่สุดในโลกธุรกิจ ในบ้านเราก็มีความท้าทายในเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทที่ต้องเป็นผู้นำสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งให้เกิดขึ้น
การหล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กรที่ดีมีจริยธรรมจึงสำคัญมาก เพราะสิ่งที่พนักงานและผู้บังคับบัญชาทำกระทบธุรกิจของบริษัท
กระทบเป้าธุรกิจ ชื่อเสียงและมูลค่าระยะยาวของบริษัท
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน
WebSite : http://www.anticorruption.in.th