ประเด็นร้อน
ลุยฟ้อง'ล้มละลาย'สหกรณ์ฯคลองจั่น เล็งแบ่ง'ทรัพย์สิน'
โดย ACT โพสเมื่อ Sep 21,2017
- - สำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ - -
“ไพบูลย์”เป็นตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ฯคลองจั่น ยื่นฟ้องล้มละลายสหกรณ์ฯ และให้พ้นแผนฟื้นฟู หลังทำสัญญาประนีประนอมกับคู่กรณีโดยไม่แจ้งเจ้าหนี้ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซ้ำยังมีหนี้สินล้นพ้นไม่เห็นหนทางจะฟื้นฟูได้ ระบุเป็นช่องทางให้ลูกหนี้กว่า 5 พันรายนำทรัพย์สินมาแบ่งกันได้ โดยไม่ต้องรอนานถึง 26 ปี
วานนี้ (20ก.ย.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และนายธรรมนูญ อัตโชติ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากประชาชนผู้เสียหายจากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำนวน 275 คน เดินทางไปยังศาลล้มละลายกลางยื่นฟ้อง สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด นายประกิต พิลังกาสา ประธานกรรมการดำเนินการและประธานกลุ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูสหกรณ์ฯ และนายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานที่ปรึกษาสหกรณ์ฯ เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานกระทำผิดพระราชบัญญัติ( พ.ร.บ.)ล้มละลาย พ.ศ.2483
โดยโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสาม ได้ทำสัญญาประนีประนอมกับบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ในการจำหน่าย จ่าย โอน ทรัพยสิทธิในที่ดิน ตั๋วแลกเงิน และหุ้นของบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด โดยไม่แจ้งให้พวกโจทก์ทราบ ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นประชาชนในฐานะเจ้าหนี้ 275 คนได้รับความเสียหาย และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำเลยที่ 1 ก็ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กับคำสั่งศาลล้มละลายกลางด้วยที่สั่งให้ชำระหนี้แก่ประชาชนกว่า 100 ราย
แต่กลับกลั่นแกล้งหน่วงเหนี่ยวให้ประชาชนในฐานะเจ้าหนี้ ไม่ได้รับการชำระหนี้ตามคำสั่งศาล และเมื่อปรากฏพฤติการณ์ที่สหกรณ์เครดิตฯในฐานะลูกหนี้และผู้บริหารแผนได้มีการกระทำผิดกฎหมายโดยทุจริต ทั้งมีหนี้สินล้นพ้นตัว และไม่มีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการได้อีกต่อไป
ดังนั้น โจทก์ทั้ง 275 คนซึ่งเป็นประชาชนผู้เสียหาย จึงขอให้ศาลล้มละลายกลาง มีคำพิพากษาให้สหกรณ์ฯ พ้นจากการฟื้นฟูกิจการ และขอให้เป็นบุคคลล้มละลาย
ทั้งนี้ ศาลล้มละลายกลาง ได้รับคำฟ้องไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 30 ต.ค. นี้ เวลา 09.00 น.
ขณะที่นายไพบูลย์ กล่าวว่าหากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย จะมีผลทำให้ประชาชนผู้เสียหายประมาณ 5,400 คน มีสิทธิขอแบ่งทรัพย์สินโดยตรงจากกองทรัพย์สินคดีฟอกเงินที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกองทรัพย์สินของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นด้วย โดยประชาชนไม่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายทนายและค่ารักษากิจการ ประมาณปีละ 100 ล้านบาท และไม่ต้องรอทยอยรับเงินนานถึง 26 ปี ตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับการบริหารงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นนั้น ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2560 นายธรรมนูญ อัตโชติ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากประชาชนผู้เสียหายจากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เคยเป็นตัวแทนผู้เสียหายรวม 665 ราย ยื่นฟ้องนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายบุญเสริม ไกรสินธุ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์พื้นที่ 2 และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นจำเลยที่ 1-3 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางด้วย
ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และทุจริตฐานฉ้อโกงประชาชน มาตรา 341, 343 และความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา 4, 5 เนื่องจากร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือสหกรณ์คลองจั่น
โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้รับคำฟ้องไว้ในสารบบความเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.325/2560 และในส่วนของการชดใช้ให้กับสมาชิกสหกรณ์นั้น ช่วงต้นปี 2560 ที่ผ่านมาศาลปกครองกลางทยอยมีคำพิพากษา ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่ยื่นฟ้องคดีตั้งปี 2556 หลายสำนวนคดี
เนื่องจากศาลปกครองกลางเห็นว่ากรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย เพื่อระงับยับยั้งการกระทำที่ไม่ชอบของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯและอดีตคณะกรรมการสหกรณ์ ปล่อยให้มีการกระทำความผิดเป็นเวลากว่า 10 ปี ทั้งการปล่อยเงินกู้ให้บุคคลภายนอกไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยปัจจุบัน นายศุภชัย ก็ถูกฟ้องดำเนินคดีอาญาในศาลอาญาหลายสำนวนทั้งข้อหายักยอกทรัพย์ ฉ้อโกงประชาชน และร่วมกับพวกฟอกเงิน
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน