ประเด็นร้อน
ป.ป.ช.ฟันสรรพากรโกงแวตพันล้าน
โดย ACT โพสเมื่อ Jun 23,2017
- - สำนักข่าว มติชน วันที่ 23/06/60 - -
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 นายป้อมเพชร วิทยารักษ์ นางศศิพิมพ์ บรรดาเสียง น.ส.อารีย์วรรณ เกาสุวรรณ์ เจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ และบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐคือ นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ (อดีตสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร) นายวีรยุทธ แซ่หลก น.ส.สายธาร แซ่หลก นายกิตติศักดิ์ อัญญโชติ และนายประสิทธิ์ อัญญโชติ กรณีร่วมกันทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ จำนวน 1,113,034,083 บาท
นายสรรเสริญกล่าวว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐกับพวก มีการแบ่งงานกันทำเป็นขบวนการ โดยร่วมกันจัดหาราษฎรเพื่อไปขอจัดตั้งบริษัทส่งออกแต่ไม่มีการประกอบการจริง และดำเนินการออกใบกำกับภาษีเท็จ ทั้งที่ไม่มีการส่งออกสินค้าจริง แล้วนำหลักฐานใบกำกับภาษีปลอมไปยื่นขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกับเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1
"คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติว่า นายพายุ นายป้อมเพชร นางศศิพิมพ์ และ น.ส.อารีย์วรรณ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 151 และ 157 ส่วนนายสุวัฒน์ นายวีรยุทธ น.ส.สายธาร นายกิตติศักดิ์ และนายประสิทธิ์ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด นอกจากนี้ จากการไต่สวนยังพบว่า มีบุคคลที่ได้รับเงินภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบ รวม 23 ราย ซึ่งเป็นเอกชนทั้งหมด แต่ไม่พบว่าบุคคลดังกล่าวร่วมกระทำความผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า บุคคลทั้ง 23 ราย และนายสุวัฒน์ได้รับเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด อาจมีมูลความผิดฐานฟอกเงิน จึงมีมติส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีฐานฟอกเงิน รวมทั้งถือได้ว่าบุคคลดังกล่าว เป็นผู้มีเงินได้ จึงให้ส่งกรมสรรพากรเพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้ เงินเพิ่ม และ เบี้ยปรับด้วย" นายสรรเสริญกล่าว