ประเด็นร้อน

พ่อแม่สุดทน!แฉระบบแปะเจี๊ยะ รร.ดัง

โดย ACT โพสเมื่อ Jun 19,2017

 ผู้จัดการรายวัน 360 องศา วันที่ 19/06/60

          
พ่อแม่สุดทน!แฉระบบแปะเจี๊ยะ รร.ดัง
          
ฉาววงการการศึกษาไทย! เมื่อมีภาพและคลิปวิดีโอที่ถูกบันทึกโดยผู้ปกครองจากกล้องจิ๋ว ถูกเผยแพร่ตามโลกออนไลน์จากการร้องทุกข์ผ่านสื่อ จนเกิดเป็นประเด็นร้อน เมื่อผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง หอบเงินสด 4 แสนบาท เพื่อจ่ายเป็นค่า "แปะเจี๊ยะ" ให้ลูกได้เข้าเรียนชั้น ม.1 โดยไร้ซึ่งใบเสร็จ แก่ผู้อำนายการโรงเรียนชื่อดังย่านพระราม 6 กรุงเทพฯ พร้อมเรียกร้องให้ "บิ๊กตู่" นายกรัฐมนตรีช่วยลงมาตรวจสอบและรื้อระบบการศึกษาไทยก่อนจะพังไปมากกว่านี้
          
"แปะเจี๊ยะ" คำฮิตติดเทรนด์วงการศึกษาไทยเชื่อเลยว่าไม่มีผู้ปกครองท่านไหนไม่คุ้นเคยกับคำว่า "เงินแปะเจี๊ยะ" หรือเรียกให้สวยหรูตามที่กระทรวงศึกษาธิการต้องการคือ "เงินบริจาค" ซึ่งทั้งนี้ไม่ว่าจะใช้คำว่า แปะเจี๊ยะ เงินบริจาค หรือเงินบำรุงโรงเรียน ความหมายที่ทุกคนรู้และเข้าใจกันดีนั่นคือ "เงินที่ผู้ปกครองจ่ายให้กับโรงเรียน เพื่อให้ลูกได้เข้าเรียนโรงเรียนนั้นๆ โดยการจ่ายเงินนี้จะไม่มีใบเสร็จ ไม่มีการชี้แจงยอดเงินทั้งหมด และจะไม่มีการแจกแจงว่าได้นำเงินดังกล่าวนั้นถูกนำไปทำประโยชน์อย่างไรบ้าง"
          
ย้อนไปในอดีต สัก 30-40 ปีที่แล้ว การเรียกเก็บ "เงินแปะเจี๊ยะ" มักเกิดกับโรงเรียนเอกชนซะมากกว่า ขณะที่การเรียกเก็บเงินแปะเจี๊ยะในโรงเรียนรัฐบาลนั้นกลับมีไม่มาก ซึ่งตรงกันข้ามกับปัจจุบันนี้ที่ชื่อของโรงเรียนรัฐบาลดังๆ หลายแห่งนำไปสู่การเรียกเก็บเงินแปะเจี๊ยะอย่างจริงจัง พร้อมกับการหยิบยกความจำเป็นของการสร้างตึก สร้างสนามกีฬา สร้างสระว่ายน้ำ ติดเครื่องปรับอากาศให้ห้องเรียน ฯลฯ ขึ้นมา สร้างความเดือดร้อนและความลำบากใจให้กับผู้ปกครองแต่ละท่านอยู่ไม่น้อยกับมูลค่าเม็ดเงิน ค่าแปะเจี๊ยะที่พุ่งทะยานกว่า 5 แสนบาทต่อคน และไม่มีทีท่าจะ ลดลงแม้แต่น้อย ก่อเกิดเป็นปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ถึงกระบวนการเรียกเก็บเงินดังกล่าว
          
ดังเช่นกระแสที่กำลังเป็นประเด็นร้อน เมื่อมีภาพจากกล้องวิดีโอขนาดเล็กซึ่งถูกบันทึกโดยผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่ง ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดภาคใต้ ได้นำเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเพื่อให้เป็นสื่อกลางไปถึง "บิ๊กตู่" นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
          
ภาพเหตุการณ์ที่ถูกเผยแพร่ออกมาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ในการนำเงินสด จำนวน 4 แสนบาท ไปมอบให้แก่ผู้บริหารโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ หลังจากที่ผู้บริหารได้ประสานงานการรับเด็กเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยวิธีพิเศษ ซึ่งผู้ปกครองต้องชำระเงินก่อนเข้าโดยที่ไม่มีใบเสร็จรับเงินจากโรงเรียน โดยผู้ปกครองรายนี้ถูกเรียกรับเงินค่าแปะเจี๊ยะสูงถึง 4 แสนบาท!
          
บิ๊กตู่ ช่วยที! ก่อนการศึกษาไทยพังเละ
          
จากความคับแค้นใจของผู้ปกครองรายนี้ ซึ่งได้นำเงินสด จำนวน 4 แสนบาท โดยมีการบันทึกภาพไว้ทุกขั้นตอน และมีการติดต่อกับผู้บริหารโรงเรียนผ่านทางโทรศัพท์ ตามนัดหมาย โดยให้นำเงินสดจำนวนนี้ไปด้วย หลังจากนั้นได้นำเงินใส่ซองสีน้ำตาล เดินขึ้นไปบนชั้น 2 ของอาคารบริหารของโรงเรียนแห่งนี้ ก่อนที่จะเข้าไปพูดคุยกับผู้บริหาร
          
ซึ่งทางผู้บริหารได้พูดคุยในทำนองว่า จะไม่สามารถออกใบเสร็จรับเงินให้ได้ และการเข้าเรียน นักเรียนจะต้องเริ่มสตาร์ท การเรียนอย่างตั้งใจตั้งแต่ต้น เมื่อถึงชั้น ม.4 ผู้ปกครองจะได้ ไม่ต้องมาวุ่นวาย ก่อนที่ผู้ปกครองจะระบุถึงการสนับสนุนเงิน
          
ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนได้บอกว่า "ในเรื่องนี้ได้มอบหมาย ให้รองผู้อำนวยการเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดไปแล้ว"
          
โดยหลังจากผู้ที่ถูกระบุ คือ "รอง" มายืนข้างโต๊ะผู้บริหาร รายนี้ ผู้ปกครองได้ส่งมอบซองสีน้ำตาลที่บรรจุเงินสด จำนวน 4 แสนบาท โดยผู้ที่ถูกระบุจากผู้บริหารว่าเป็น "รอง" ได้นำซองเงินสดวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นไม่นานผู้ปกครองได้ขอตัวกลับออกไปจากห้องผู้บริหารในทันที
          
ผู้ปกครองรายนี้ยังระบุด้วยว่า การเรียกรับเงินในกรณีกลุ่มเด็กเข้าเรียนแบบวิธีพิเศษ ในชั้น ม.1 นั้นมีจำนวนหลายราย ทราบมาว่า บางรายมีการจ่ายเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะถึง 5 แสนบาท เพื่อให้ลูกได้เข้าเรียน โดยที่ไม่มีใบเสร็จรับเงิน
          
ทั้งนี้เหล่าผู้ปกครองต่างเกิดความไม่สบายใจว่า เงินจำนวนนี้ได้ถูกเข้ามาพัฒนาโรงเรียน หรือถูกใช้ไปเพื่อการส่วนตัวกันแน่ โดยเหตุผลที่แท้จริงยังไม่มีใครทราบได้ จึงวอนขอให้ "บิ๊กตู่"นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้า ตรวจสอบในเรื่องนี้ เนื่องจากถือเป็นช่องว่างสำคัญในการเรียกรับผลประโยชน์เป็นส่วนตัวหรือไม่
          
ล่าสุด!! ทราบว่าทางผู้บริหารกลุ่มนี้อยู่ในระหว่างการเดินทางไปท่องเที่ยวในแถบประเทศยุโรป
จากปากผู้ปกครอง ยอมจ่ายแพงแลกสังคมให้ลูก
          
กรณีดังกล่าวที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ผู้สื่อข่าว ผู้จัดการ Live ได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ผู้ปกครองท่านหนึ่ง เกี่ยวกับการยอมควักเงินค่าแปะเจี๊ยะหลักแสนเพื่อให้ลูกชายได้เข้าเรียนโรงเรียนชายล้วนชื่อดังว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่แน่นอนว่าต้องการหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ลูก ดังนั้น การที่เราจะยอมจ่ายเงินซึ่งไม่ใช่น้อยๆ แก่โรงเรียนนั้นเราต้องมั่นใจและเชื่อมั่นว่าโรงเรียนแห่งนี้ดีจริง

"สำหรับตนยอมจ่ายเงินค่าแปะเจี๊ยะจำนวน 2 แสนบาทแก่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เพื่อให้ลูกชายได้เข้าเรียนชั้น ป.1 เพราะแค่ชื่อโรงเรียนคนทั่วไปก็สามารถรู้ได้เลยว่า คนที่จะมาเรียนที่นี่ได้แปลว่าที่บ้านต้องมีเงิน ซึ่งโรงเรียนนี้รับเฉพาะเงินสด นับกันตรงหน้าเรียงคนเลยว่าครบไม่ครบ โดยตนยอมรับว่ายอมจ่ายเงินจำนวนนี้เพื่อแลกกับสังคม ที่ดีแก่ลูก แน่นอนว่าหลายคนอาจมองว่าการกระทำเช่นนี้ผิดตั้งแต่วิธีคิดของผู้ปกครอง แต่หากมองในอีกมุม หากสังคมที่ลูกเข้าไปอยู่มีคนดีอยู่ซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีแต่ลูกคนมีเงินไปเรียน ปัญหาในเรื่องของยาเสพติดก็จะลดน้อยลงไปด้วย ไม่เหมือนโรงเรียนรัฐบาลที่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นจำนวนมาก อีกทั้งยังรวมถึงเรื่องท้องก่อนวัยอันควรอีกเป็นต้น"
          
ด้านผู้ปกครองอีกหนึ่งท่าน ได้เปิดเผยข้อมูลกับทีมข่าวว่า ขณะนี้ลูกสาวเรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนราชินี ซึ่งจ่ายค่าแปะเจี๊ยะ จำนวน 200,000 บาทเช่นกัน โดยทางโรงเรียนจะรับเฉพาะเช็คพร้อมระบุสั่งจ่ายในนามมูลนิธิ ก. ของราชินี เท่านั้น สำหรับเงินแปะเจี๊ยะที่ทางโรงเรียนรับไปนั้นเท่าที่ทราบคือ ส่วนหนึ่งใช้เป็นเงินช่วยเหลือในเรื่องการเรียนแก่นักเรียน โดยนักเรียนที่เดือดร้อนสามารถมาเขียนคำร้องได้หากเงินค่าเทอมไม่พร้อม แจ้งเหตุผลที่ไม่มีเงินจ่าย จากนั้นทางโรงเรียนจะช่วยเป็นเทอมๆ ไป แต่ไม่ได้ช่วยตลอด ทั้งนี้ ทั้งนั้นบางครั้งก็สงสัยว่าเงินที่ทางโรงเรียนเรียกเก็บไปนั้น นำไปใช้ทำประโยชน์อะไรบ้างเพราะเท่าที่ผ่านมาไม่เคยทราบจริงๆ ว่าเงินถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง
          
ล่าสุดผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวภาคใต้ ได้รับการเปิดเผยจากผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่ถูกเรียกรับเงินคนดังกล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าหากยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเงินที่มอบให้ ถูกนำไปใช้ประโยชน์แก่โรงเรียน ตนจะรวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะจะนำคลิปภาพที่มีการแอบถ่ายไว้ส่งมอบให้แก่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เพื่อให้ดำเนินการต่อเรื่องนี้ และหาความชัดเจนว่า เงินที่ผู้ปกครองหลายคนได้จ่ายเพื่อสนับสนุนแก่ทางโรงเรียนนั้น ทางผู้บริหารได้นำเข้าเป็นรายได้ของโรงเรียนจริง หรือมีการนำไปใช้ส่วนตัว
          
"หลังปรากฏเป็นข่าว ทางรุ่นพี่รุ่นน้อง และสมาคมศิษย์เก่าของโรงเรียนต่างให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ตอนนี้ทราบมาว่า จะมีการเรียกประชุมเพื่อหารือกันใน วันสองวันนี้ โดยอาจจะมีการกำหนดมาตรการบางอย่างเพื่อช่วยกันกู้ศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิของโรงเรียนด้วย เพราะสถานศึกษาแห่งนี้ได้สร้างบุคลากรที่สร้างคุณค่าให้แก่ประเทศชาติไว้ เยอะ ศิษย์เก่าหลายคนเคยเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของประเทศไทย นายทหาร และนายตำรวจชั้นนายพล คนสำคัญของประเทศมีเป็นจำนวนมากเช่นกัน และทุกท่านต่างก็ติดตามเรื่องนี้"
          
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ปัญหาเกี่ยวกับการร้องเรียนความไม่โปร่งใสในเรื่องการรับนักเรียนเข้าศึกษา และปัญหาเรื่องการทุจริตด้วยการรับเงินแปะเจี๊ยะ ของโรงเรียนดังต่างๆ นั้นจะมีเกิดขึ้นให้ได้เห็นอยู่ตลอด เวลานี้ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ที่นายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง จะเห็นถึงความสำคัญของปัญหาเหล่านี้ว่าควรรีบเข้ามาแก้ไขและเข้ามาจัดการระบบการศึกษาไทยให้พัฒนาและมีประสิทธิภาพได้หรือยัง?

อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ : http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx