ประเด็นร้อน

สูตรแก้ระบบ'ตำรวจนอกแถว'

โดย ACT โพสเมื่อ May 19,2017

 จากแนวคิดการปฏิรูปประเทศ ว่าด้วยการปฏิรูปกิจการตำรวจ  ให้เป็นกลไกสำคัญของการเปลี่ยนแปลงกระบวนการยุติธรรม และถือเป็นเรื่องสำคัญ  ที่วางหลักประกันงานไว้ในรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันนั้น

ล่าสุด คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ  เพื่อศึกษาแผนปฏิรูปกิจการตำรวจ
ในคณะกรรมการประสานงานระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ  สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มี "พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ สมาชิก  สนช."
เป็นประธานอนุกรรมการฯ ได้จัดทำรายงานเพื่อเป็นทางลัดสู่การปฏิบัติตามบัญชาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ  ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานตำรวจ
ที่มีโจทย์ปฏิรูป  8 ประเด็น คือ  
1.โอนถ่ายภารกิจ 2.ปฏิรูประบบงบประมาณ 3.จัดระบบนิติวิทยาศาสตร์ 4.ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น 5.ปฏิรูประบบงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมาย 6.สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและท้องถิ่น 7.ระบบสรรหาและระบบฝึกอบรม และ 8.ปรับปรุงการบริหารงานบุคคลอย่างมีธรรมาภิบาล
          
โดยสาระของแนวปฏิบัติแต่ละด้าน ตาม ข้อเสนอของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ มี รายละเอียดที่น่าสนใจ คือ
          
1.โอนถ่ายภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
ตามรายงานไม่ระบุว่ามีหน่วยงานใดที่แจ้งประสงค์เพื่อรับโอน  แต่มีข้อเสนอให้โอน "สตช." ขึ้นตรงต่อ "รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม" แทนขึ้นตรงต่อ  "นายกรัฐมนตรี" ด้วยเหตุผลคือ  เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานด้านกระบวนการยุติธรรมทางอาญา และกำหนดให้ "สตช."  ต้องรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี (ครม.) และวุฒิสภา   เพื่อสร้างระบบตรวจสอบและกำกับ นอกจากนั้นเสนอให้ "สตช." รับงานจากหน่วยงานอื่นมาดูแล คือ  "การออกหนังสือ เดินทาง" ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ  เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ, "โอนอำนาจการทำทะเบียนอาวุธปืน"
ที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ดูแล  เพื่อความราบรื่นในการประสานข้อมูลในระบบยุติธรรมทางอาญา
          
2.ปฏิรูประบบงบประมาณของตำรวจ
ข้อเสนอ ถูกอ้างอิงจากการสำรวจความคิดเห็นของข้าราชการตำรวจ 9,927  ราย ให้ขึ้นเงินเดือนและค่าตอบแทนด้านต่างๆ
เริ่มจากเพิ่มฐานให้สูงกว่าเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนสามัญ เหตุผลคือ  อาชีพตำรวจมีความเสี่ยงสูงกว่า
ข้อเสนอ คือตำรวจชั้นประทวนบรรจุใหม่  ควรมีเงินเดือนเริ่มต้น 13,773 บาท จากเดิม 10,760 บาท, ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรบรรจุใหม่ เงินเดือนเริ่มต้น  26,605 บาท จากเดิม 15,290 บาท ขณะที่ตำแหน่งพิเศษ และมีความเสี่ยงสูง เช่น ตำรวจจราจร,  ตำรวจสายงานป้องกันและปราบปราม, สายงานสอบสวน  ต้องได้รับเงินเดือนสูงกว่าฐานเงินเดือนขั้นต้น 2-3 เท่า ขณะที่พื้นที่เสี่ยงภัย มีค่าครองชีพสูง  ต้องมีเงินเพิ่มพิเศษที่เหมาะสมต่อการใช้ชีวิต        
รวมถึงต้องปรับปรุงระบบสวัสดิการ เพิ่มระบบประกันชีวิต  ประกันการบาดเจ็บ หรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่  และเสนอให้จัดสรรงบประมาณเพื่อซื้ออุปกรณ์ประจำกาย อุปกรณ์การซ้อม  จากเดิมที่ปัจจุบัน "อาชีพตำรวจ" จะได้รับเงินเพิ่มพิเศษ ประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน ไม่มีระบบประกันชีวิต  มีเพียงสิทธิรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลของรัฐ ขณะที่การจัดซื้ออุปกรณ์ประจำกายนั้น  นายตำรวจต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เพราะอุปกรณ์ของหน่วยงานมีสภาพเก่า และมีไม่เพียงพอ
3.ระบบนิติวิทยาศาสตร์
เสนอให้จัดหาอุปกรณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และเป็นมาตรฐานสากล  รวมถึงต้องขยายงานสู่หน่วยพิสูจน์หลักฐานให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตามระดับจังหวัด  และโรงพัก
4.ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น
เสนอให้ติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ในโรงพัก,  พื้นที่ให้บริการประชาชน และกำหนดให้เชื่อมสัญญาณออนไลน์ไปยังส่วนกลางของตำรวจ  เพื่อใช้ตรวจสอบและควบคุมการทำงานของเจ้าหน้าที่  รวมถึงให้ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศออนไลน์สอดส่องการทำงานของตำรวจ อัยการ  ศาล ราชทัณฑ์ หน่วยคุมประพฤติ ทั้งนี้ได้สนับสนุนให้ประชาชนมีการแจ้งเบาะแส  หรือข้อร้องเรียนความไม่โปร่งใสผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
5.ปฏิรูประบบงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมาย
ด้วยการปรับระบบเข้าเวร เป็นระบบสอบสวนแบบบูรณาการ  พร้อมเพิ่มอำนาจให้หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนสั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสอบสวนได้ทั้งหมด  ขณะที่คดีสอบสวน เสนอให้ยกคดีที่มีความยุ่งยากซับซ้อน, คดีของผู้มีอิทธิพล,  คดีที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ เป็นคดีที่ต้องสอบสวนเป็นกรณีพิเศษ
นอกจากนั้นเสนอให้ ตั้ง "ทีมไทยแลนด์"  เพื่อปฏิบัติหน้าที่ด่านพรมแดนระหว่างประเทศ  เพื่อบูรณาการการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยก่อนที่จะไปถึงจุดของการมี  "ทีมไทยแลนด์" ควรจ้างสถาบันการศึกษา บริษัท เพื่อศึกษา  วิเคราะห์และออกแบบโครงสร้าง, กระบวนการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากล
6.สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและ ท้องถิ่น
ให้แก้ไขกฎหมายส่วนของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)  เพื่อให้ประชาชนมีส่วนต่อการกำหนดนโยบาย งบประมาณ และระบบอาสาสมัคร  รวมถึงสร้างระบบตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ
7.ระบบสรรหาและระบบฝึกอบรม
โดยเสนอให้ "โรงเรียนนายร้อยตำรวจ" เป็นสถาบันอบรมและฝึกวิชาชีพ  แทนสถาบันการศึกษา และก่อนที่ตำรวจจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ต้องจัดปฐมนิเทศ  รวมถึงฝึกอบรมระหว่างทำงาน ทั้งการใช้อาวุธ ทักษะการสอบสวน  และการปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน  นอกจากนั้นแล้วให้ปรับสายงานตำรวจบางประเภทเป็นตำรวจไม่มียศ เช่น นิติวิทยาศาสตร์,  แพทย์, พยาบาล
และ 
8.ปรับปรุงการบริหารงานบุคคลอย่างมีธรรมาภิบาล
เสนอให้บัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ  โดยมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์เบื้องต้น คือ ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ  ผ่านการอบรมตามหลักสูตร  สำหรับการโยกย้ายให้เฉลี่ยน้ำหนักระหว่างความอาวุโสกับความรู้ ความสามารถ   และความประพฤติในสัดส่วน 50:50
นอกจากนั้นในการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  กำหนดคุณสมบัติต้องผ่านงานสอบสวนไม่น้อยกว่า 2 ปี และร่วมรับ ผิดชอบสำนวนสอบสวนไม่น้อยกว่า 70 สำนวนคดี, ตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจหรือผู้บังคับการ หรือผู้บัญชาการได้  ต้องผ่านการดำรงตำแหน่งเป็นพนักงานสอบสวนไม่ต่ำกว่า 2  ปี และรับผิดชอบสำนวนการสอบสวนไม่น้อยกว่า 70 สำนวนคดี
ตำแหน่งผู้กำกับการ หรือผู้บังคับการหรือ ผู้บัญชาการ  สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ต้องมีวุฒิการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ  หรือมีวุฒิปริญญาตรี และผ่านงานในตำแหน่งรองสารวัตรหรือสารวัตร  หรือรองผู้กำกับการที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานหรือตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ไม่น้อยกว่า 2 ปี
          
รวมถึงให้กำหนดระดับโรงพัก เป็น 2 ระดับ คือ สถานีตำรวจระดับ 1 และสถานีตำรวจระดับ 2 (โรงพักเดิม) เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การเลื่อนตำแหน่งด้วย กล่าวคือ  การเลื่อนตำแหน่งข้าราชการตำรวจให้สูงขึ้นครั้งแรก จากรองสารวัตร เป็น สารวัตร,  จากสารวัตร เป็นรองผู้กำกับการ, จากรองผู้กำกับการเป็นผู้กำกับการ  ต้องอยู่ในโรงพักระดับ 2 ไม่น้อยกว่า 2 ปี และเมื่อย้ายไปสู่สถานีตำรวจระดับ 1 แล้วห้ามลดไปดำรงตำแหน่งในระดับ 2 นอกจากนั้นเสนอให้มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สอบได้ อันดับ 1 ของแต่หลักสูตรสารวัตร, ผู้กำกับ, การบริหารตำรวจชั้นสูง  ไม่ต้องรอครบระยะเวลาดำรงตำแหน่ง  หากมีคุณสมบัติพื้นฐานครบให้ได้รับการแต่งตั้งได้ตามรอบประจำปี
          
สำหรับข้อเสนอทั้งหมดนั้น "อนุกรรมการ เฉพาะกิจฯ"  จะส่งเรื่องให้ "ครม." พิจารณาพร้อม ส่งต่อไปยัง "คณะกรรมการปฏิรูปกิจการตำรวจ"  ที่  ครม. แต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 260 กำหนด เพื่อให้ใช้เป็นเอกสารประกอบการปฏิรูปกิจการตำรวจในระยะ 1  ปีต่อจากนี้
"ข้อเสนอ คือตำรวจ ชั้นประทวนบรรจุใหม่ ควรมีเงินเดือนเริ่มต้น 13,773 บาท จากเดิม 10,760 บาท, ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรบรรจุใหม่ เงินเดือนเริ่มต้น 26,605 บาท จากเดิม 15,290 บาท"
"นอกจากนั้นในการ แต่งตั้งตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจ แห่งชาติ กำหนดคุณสมบัติต้องผ่านงานสอบสวน ไม่น้อยกว่า 2 ปี และร่วมรับผิดชอบสำนวนสอบสวนไม่น้อยกว่า 70 สำนวนคดี"

- -สำนักข่าว คม ชัด ลึก วันที่ 19 พฤษภาคม 2560 - -