รายการ ACT Now

ACT Now EP. 9 No Gift Policy

โดย ACT โพสเมื่อ Nov 02,2020

 ACT Now EP.9

ACT Now EP.9 - บรรทัดฐานใหม่ กสท. No Gift Policy ในฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจเราควรทำให้เป็นแบบอย่าง เราต้อง Treat ทุกคนให้เท่าเทียมกัน ให้เสมอภาคกัน หลีกเลี่ยง Bias ในบางเรื่อง ก็เลยเป็นนโยบายที่เราสร้างขึ้นมา แรกๆ ก็จะมีเสียงไม่เห็นด้วยในบางส่วนเพราะว่าในบางสิ่งบางอย่างเป็นงานเทศกาลของบ้านเราในบางเรื่อง ก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีการที่ให้ของขวัญ ให้ของที่ระลึก ให้ขนม อะไรต่างๆ บ้าง ถ้าเกิดจะรับมาเช่นของเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเป็นของที่สามารถจะแชร์ได้ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในอันนั้น เช่นบอกว่าเอากระเช้าผลไม้มาก็ต้องมาแบ่งกันหรือถ้าเป็นอะไรที่ในบางครั้งเป็นของ เราต้องเก็บรวบรวมไปแล้วไป Charity อาจจะไปบริจาคหรืออะไรต่างๆ พวกนี้ ก็จะ Compromise กันไป เพราะว่าในบางครั้งการที่รับของมา แล้วไม่รับเลยหรืออยู่ดีๆ ส่งคืน คนรับก็อาจจะเสียความรู้สึกเหมือนกัน ก็ต้องค่อยๆ ปรับเปลี่ยนกันไป แต่ว่าหลังๆ ทุกคนเข้าใจ แล้วก็เราก็ประกาศตั้งแต่ตอนเริ่มต้นเลย บอกว่าเทศกาลต่างๆ พวกนี้ เราเป็น No Gift Policy ดีมากขึ้น แล้วก็ทำให้เป็นตัวอย่าง ผมคิดว่าจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามในบางเรื่องที่เป็นสังคมที่เคยชินกันมา เปลี่ยนทันทีไม่ได้ แล้วก็เปลี่ยนโดยใช้คำสั่ง การบังคับบัญชาไม่ได้ เราต้องควบคู่กันไป ระหว่างค่อยๆ ในการปรับเปลี่ยนอะไรก็ตามในสังคมไทย ในเรื่องของจริยธรรมอะไรต่างๆ พวกนี้ เป็นอะไรที่ต้องใช้เวลา ต้องมีผู้นำที่เป็นแบบอย่าง แล้วก็ทำให้คนมีความเชื่อถือ เชื่อมั่น แล้วก็ปฏิบัติตาม คือยากตอนเริ่มต้น เพราะว่าแต่ละคนก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ถึงแม้คนที่จริงๆ เขาก็บริสุทธิ์ใจ บอกว่ารับก็ไม่ได้ไปช่วยอะไรก็บริสุทธิ์ใจ เป็นเทศกาลต่างๆ แต่ว่าผมคิดว่าอันนี้เป็นการสร้างบรรทัดฐานของสังคม แล้วก็ถ้าเกิดท่านได้เริ่มนโยบายนี้ ท่านจะเห็นสิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาท่านปฏิบัติในสิ่งที่รู้สึกภาคภูมิใจ แล้วก็บอกได้ว่าในการที่เราดำเนินธุรกิจ การทำงานต่างๆ เราเองเราไม่ได้เอื้อประโยชน์กับใครหรือไม่ได้ทำแล้วเกรงใจใคร เราทำด้วยบรรทัดฐานที่มีระเบียบ มีข้อบังคับตามกำหนดอยู่แล้วอยากจะให้เชิญชวน ให้ลองปฏิบัติกัน แล้วผลลัพธ์ออกมาผมบอกว่าเป็นบวกแน่นอน


ACT Now EP 9 1 No Gift Policy IOD เราเป็นคนแรกที่ต้องเปลี่ยน

ก็ต้องบอกอย่างนี้นะครับว่า จริงๆ แล้วประเทศไทยเราติดหล่ม ติดหล่มที่ว่าเราไม่สามารถจะพัฒนาต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆเหตุผลก็เป็นเพราะว่าคำว่า Know who สำคัญกว่า Know howตัว Know who นี้แหละคือตัวแม่ของคำว่า CorruptionCAC เรามีบริษัทมาจดทะเบียนรับรองแล้ว432 บริษัท อันนี้คือบริษัทขนาดใหญ่ ขนาดกลางกับเล็กอีก 25 บริษัทประมาณเกือบ 500 บริษัท มีบริษัทที่ประกาศ No Gift Policy ประมาณ 89 บริษัท แต่ว่าที่เหลือที่ไม่ได้ประกาศ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีมาตรการในการควบคุม เขามีการควบคุม เพียงแต่ว่าของเขาก็คือยังมีการแจกของขวัญ เพียงแต่ว่าอาจจะเป็นการแจกที่เล็กน้อยมากจนกระทั่งไม่น่าจะไปเป็นความเสี่ยงเรื่องของการให้สินบนหรือรับสินบน ต้องบอกเลยว่า 10 ปีที่ผ่านมาเรื่องของการให้หรือรับของขวัญก็มีความสุ่มเสี่ยงว่าสิ่งที่ให้หรือสิ่งที่รับจะกลายไปเป็นสินบนหรือเปล่างดการคาดหวัง ซึ่งตรงนี้จะทำให้ทั้งสองฝ่ายทำงานกันอย่างมีความสบายใจมากขึ้น การที่ให้ จำกัด หรือ ควบคุม นั่นคือสิ่งที่ควรทำ ถ้าทุกคนสามารถที่จะสื่อสารออกมาได้ ตรงนี้คือพลัง พลังที่จะพลิกจากวัฒนธรรมที่อาจจะมีความเสี่ยงในการให้ของขวัญไปเป็นสินบน มาเป็นสังคมที่โปร่งใสมากขึ้น ซึ่งเรื่องของ No Gift Policy หรือว่าเรื่องของ Gift เอง อยากจะเชิญชวนทุกคนเลยที่อยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมของเราเพื่อเป็นของขวัญให้กับลูกหลานเรา เป็น Gift Policy ให้กับลูกหลานเราโดยการที่เราเองเป็นคนแรกที่ต้องเปลี่ยน


 

 

 

งดรับของขวัญต่างๆ เป็นสิ่งที่่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญมานานแล้ว เรามีนโยบายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ซึ่งออกมาตั้งแต่ Top-Down / Bottom-Up ภายในและภายนอก ถ้าเป็นภายในก็คือเรามีจรรยาบรรณให้พนักงานปฏิบัติ แล้วก็เรา Enforce เราปฏิบัติกันจริงๆ เพราะว่าเราต้องการทำให้การให้บริการของเรา การทำธุรกิจของเรา กับคู่ค้า กับ Stakeholder ของเรา เป็นไปอย่างเป็นธรรมโปร่งใส ในด้านภายนอก เราพยายาม Promote สนับสนุนออกมาทางสื่อของเราต่างๆ ซึ่งเราก็ใช้ช่องทางหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Line ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram, Website ของตลาดที่เราประกาศเลย ทั่วโลกเขาก็ใช้หลักการเดียวกัน เขาก็ส่ง Greeting มาเป็น Electronic Card เราก็ส่งไปเป็น Electronic Card Formal thing เลย ยกตัวอย่างเช่น เรากับคู่ค้าเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง เราก็มีการเหมือนลงนามกันเลยว่า เราจะปฏิบัติตามหลักการ ไม่มีอะไรที่ต้องมาให้ของขวัญ ไม่มีอะไรที่ไม่ Fair treatment อะไรต่างๆ มีความโปร่งใสอย่างไรบ้าง ผมคิดว่าต้องทำทั้ง 2 วิธี ภายใน – ภายนอก / Informal – Formalผมคิดว่าเป็นการที่ทำให้ทุกคนมั่นใจว่าสิ่งที่ทำ ไม่ใช่ทำแค่เป็นเหมือนเป็น Form แต่เป็นทำอะไรที่เป็นแบบมี Function มี Substance จริงๆ ผมว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าเหมาะสม แล้วก็เป็นอะไรที่เหมาะกับโลก New normal ผมเชื่อว่าเวลาที่เรามีกฎที่เหมาะสม เรามีการส่งเสริมให้การเกิดทำต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎดังกล่าว จะทำให้เกิดการแข่งขันอย่าง Fair Play แล้วก็ทำให้ทุกอย่างมีประสิทธิภาพ แล้วก็การทำงานต่างๆ จะประสบความสำเร็จได้ดีกว่าระบบที่ไม่มีความชัดเจน ไม่มีความโปร่งใส ไม่มีการแข่งขันอย่างยุติธรรม เราอย่าไปพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่าย เราพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับว่าการทำทุกอย่างให้ตรงไปตรงมาแล้วสะดวกขึ้น แล้วทุกคนแทนที่จะต้องมานั่งคิดทำเรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจ จะได้เหลือแต่เรื่องที่เป็นธุรกิจ ผมคิดว่าการออกกฎหมายเป็นเรื่องที่ดีแต่ว่ากฎหมายจะปรับตัวให้เข้ากับทุกสถาณการณ์ยากเพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะต้องช่วยกันสนับสนุนให้เกิดขึ้นคือตลาดเป็นตัวผลักดัน เป็น Market force ที่ทำให้ทุกคนต้องปฏิบัติในแบบนี้ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่เหมือนคนอื่น ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีใครทำธุรกิจด้วย ผมว่าตรงนี้มากกว่าที่ต้องการจะให้ทำอะไรประสบความสำเร็จได้และมีประสิทธิภาพSHOW LESS