คมนาคมชงข้อมูลแพ้คดี 'โฮปเวลล์' 1.2 หมื่นล้านเข้า ครม. 30 เม.ย.-'บิ๊กตู่' ยันต้องแก้ปัญหา

โดย ACT โพสเมื่อ Apr 25,2019

- - ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา - -

 

กระทรวงคมนาคมเตรียมชงข้อมูลปมแพ้คดีศาลปกครองสูงสุด เสียค่าโง่เลิกสัญญาสร้าง 'โฮปเวลล์' 1.2 หมื่นล. เข้าที่ประชุม ครม. 30 เม.ย. - 'พล.อ.ประยุทธ์' ย้ำรัฐบาลต้องแก้ไขปัญหา แม้เป็นเรื่องสืบเนื่องจาก รบ.ในอดีต ส่วนปมขึ้นราคารถสาธารณะเป็นมติ คกก.ควบคุมขนส่งทางบก แต่จะต้องมีการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมปรับปรุงบริการให้ดีขึ้นต่อไป

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัต ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงในที่ประชุมกรณีรัฐบาลต้องจ่ายค่าเสียหาแก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) กรณีถูกยกเลิกสัญญาว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคม อยู่ในขั้นตอนจัดหาข้อมูล รายละเอียด และแนวทางเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และจะมารายงานที่ประชุมครม. อย่างเป็นทางการในวันที่ 30 เม.ย.นี้  ซึ่งในการประชุมวันเดียวกันนี้ ยังไม่มีการพูดคุยถึงทางออกเรื่องนี้แต่อย่างใด

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ตัดสินให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2551 จ่ายค่าชดเชยคืนแก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเงินกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท จากการบอกเลิกสัญญารวมเป็นเงิน 11,888.75 ล้านบาท (อ่านประกอบ:ศาล ปค.สูงสุดพิพากษากลับสั่ง รฟท.จ่ายค่าโง่ 1.2 หมื่นล.คดีโฮปเวลล์)

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ต้องรอคำชัดเจนในคำพิพากษากันก่อน ตรงนี้แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่สืบเนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมา แต่รัฐบาลปัจจุบันต้องแก้ไข ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีเรื่องขึ้นค่าโดยสารของขนส่งมวลชนแห่งกรุงเทพว่า ในประเด็นนี้นั้นขอเรียนว่าเป็นมติของคณะกรรมการการควบคุมการขนส่งทางบก ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไปขึ้นราคาหลังจากการเลือกตั้งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องประเมินผลกระทบจากการขึ้นราคาค่าโดยสารด้วยว่าเป็นอย่างไร และจะมีการปรับปรุงการให้บริการรถขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้นต่อไป

"ขอเรียนว่าอยากให้มองในประเด็นเรื่องของต้นทุนและหนี้สินจำนวนมากของทางองค์กรขนส่งมงลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่จะไปกระทบต่อผู้ประกอบการรถร่วมด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่ได้ขึ้นราคาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการควบคุมฯที่เขาจะต้องไปพิจารณาให้เหมาะสมต่อไป" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

 

 

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน