ประเด็นร้อน

ชะตาชีวิตพลิกผัน ยุคกรรมติดจรวด

โดย ACT โพสเมื่อ Apr 10,2019

- - ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า - -

 

คอลัมน์กวนน้ำให้ใส โดย สารส้ม

 

ข่าวฮือฮาล่าสุด กรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 2/2562 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มเติม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่9 เม.ย. สาระสำคัญคือให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ อยู่ในบัญชีรายชื่อเพิ่มเติมตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 โดยให้ขาดตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ใน สตช. เพื่อโอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทนักบริหารระดับสูง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง)


พูดง่ายๆ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบมูลกรณีเป็นเรื่องกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

แต่ขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า บิ๊กโจ๊กถูกตรวจสอบในเรื่องใดบ้าง?

ที่แน่ๆ ถูกโอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนเรียบร้อย

เส้นทางสู่เก้าอี้ ผบ.ตร. ขาดลงไปแล้ว


ถ้าโชคดีมากๆ ก็อาจได้เป็นข้าราชการพลเรือนในสำนักนายกฯ ต่อไป เพราะถ้าดูรายละเอียดในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 นั้น ข้อ 1 วรรคสามระบุอยู่ด้วยว่า ผู้ที่มิได้ถูกตรวจสอบ มิได้มีความผิด ก็อาจถูกโยกย้ายไปประจำสำนักนายกฯ ตามกรอบคำสั่งนี้ก็ได้เช่นกัน


ต้องรอดูผลสุดท้าย จะจบที่สำนักนายกฯ หรือมีคดีที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แล้วจะไปจบที่คุก หรือไม่?


1.กรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล แตกต่างกันสิ้นเชิงกับกรณีพลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด


แม้จะถูกโอนย้ายไปเป็นข้าราชการพลเรือนเหมือนกัน แต่ชะตากรรมต่างกันราวฟ้ากับเหว


กรณี เสธ.ไก่อู สมัครใจโอนย้าย พ้นจากการเป็นข้าราชการทหารไปเป็นข้าราชการพลเรือน ในตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ได้โดนมาตรา 44 จัดให้อยู่ในกลุ่มที่ถูกตรวจสอบแต่อย่างใด อนาคตจึงมีโอกาสไปได้ไกลถึงปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี


ผิดกับบิ๊กโจ๊ก พ้นจากข้าราชการตำรวจ แบบฟ้าผ่า มาสังกัดสำนักนายกฯ ในตำแหน่งที่นักข่าวเรียกว่า “เข้ากรุ” แถมลูกผีลูกคนว่ามีเรื่องตรวจสอบเป็นชนักติดหลังด้วยหรือไม่ กี่กรณี?


2. กรณีอดีตนายพลตำรวจที่สร้างความช็อกแบบบิ๊กโจ๊กก่อนหน้านี้ เห็นจะมีกรณีอดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางนายพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์


ล่าสุด ถูกตรวจสอบ และถูกดำเนินคดี ขึ้นโรงขึ้นศาล มากมายหลายคดี

โทษจำคุกตามคำพิพากษา รวมทุกคดีตอนนี้ กว่า 36 ปีเข้าไปแล้ว

ศาลแพ่งสั่งยึดทรัพย์สินหลายสิบล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน

ถูก ปปง. อายัดทรัพย์สินไปกว่าพันล้านบาท

ถูกถอดยศตํารวจและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฯลฯ


3. มองอีกด้าน จะเห็นว่ายุคนี้ มีคนดัง ผู้มากอิทธิพลบารมี ชะตาชีวิตพลิกผัน ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล

ถูกศาลพิพากษาจำคุก

หลายคน ติดคุกจริง แม้จะเป็นถึงเจ้าสัว เศรษฐีพันล้าน

ไม่เคยมีในยุคก่อนๆ นี้

 

ยกตัวอย่าง

นายเปรมชัย กรรณสูต ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาจำคุก เป็นเวลา 16 เดือนฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ประกันตัวสู้ในชั้นอุทธรณ์) แล้วยังมีคดีติดสินบน-ครอบครองงาช้าง-ปืนไรเฟิล ซึ่งคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน ศาลปราบโกงนัดอ่านคำพิพากษา 11 มิ.ย.นี้


นายไพรจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือ ปอ ประตูน้ำ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อม พิพากษาเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2559 ให้จำคุก 12 ปี และปรับเกือบ 70 ล้านบาท ฐานร่วมกันบุกรุกแผ้วถาง ทำลายป่า และร่วมกันสร้างสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปในทะเลในเขตน่านน้ำไทย ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.อ่าวใหญ่ อ.เมืองตราด รวมเนื้อที่กว่า 40 ไร่ ขณะนี้อยู่ในเรือนจำ


กำนันเซี๊ยะ-ภรรยา โดนคดีบุกรุกที่ราชพัสดุใน จ.กาญจนบุรี ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกคนละ 56 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีคดีฮั้วประมูล ให้จำคุกกำนันเซี๊ยะ

เป็นเวลา 5 ปี ทั้งคู่หลบหนี และคงต้องหนีตลอดชีวิต


แก๊งทุจริตเงินกู้กรุงไทย ไม่ว่าจะเป็น ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ นายวิโรจน์ นวลแข นายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา อดีตผู้บริหารกรุงไทย ฯลฯ ศาลฎีกาฯ พิพากษาลงโทษจำคุก 18 ปี ติดคุกจนได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ พักโทษ จนได้ออกมาแล้วบางคนถูก ปปง.อายัดทรัพย์ด้วย


แก๊งทุจริตคลองด่าน ทั้งกรณีฉ้อโกงซื้อที่ดิน 1.9 พันล้านบาท และฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท ศาลฎีกาพิพากษาความผิด จำคุกเศรษฐี นามสกุลดัง ญาติพี่น้องนักการเมืองดัง โดนกันเป็นแถบๆ บ้าง 6 ปี บ้าง 3 ปี หลายคนถูก ปปง.อายัดทรัพย์ เงินในบัญชีหลายร้อยล้านบาท


อดีตรัฐมนตรี-อธิบดี-ปลัด ก็ถูกศาลพิพากษาติดคุกกันกราวรูด ไล่เลียงกันไม่หวาดไม่ไหว


นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ และนายวิทยา เทียนทอง ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้จำคุกคนละ 6 ปี คดีทุจริตประมูลจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ มูลค่า 300 ล้านบาท ล่าสุด ได้มีการอนุมัติพักการลงโทษ


นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.ไอซีที ติดคุกจนได้ออกมาแล้ว กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ต้องถือในบริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน)


ธาริต เพ็งดิษฐ์ ล่าสุดคุกอีก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบโยกย้าย “ปิยวัฒน์” อดีต ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอไม่เป็นธรรม แถมยังมีคดีอื่นๆ รวมถึงคดีร่ำรวยผิดปกติหลายร้อยล้านบาท


นายทหารต้องติดคุก คดีค้ามนุษย์ ก็มีหลายกรณี เช่น พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก (คดีร่วมกับนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือ “โกโต้ง” อดีตนายก อบจ. สตูล) 27 ปี ค้ามนุษย์โรฮีนจา, พ.อ.ณัฏฐสิทธิ์หรือนายณัฏฐ์สิทธิ์ มากสุวรรณ อดีตรอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดสตูล กับ น.อ.กัมปนาท หรือ นายกัมปนาท สังข์ทองจีน อดีตหัวหน้าส่วนประสานงานชายแดนทางทะเลอันดามัน กองทัพเรือภาค 3 จังหวัดสตูล ก็โดนไปคนละ 27 ปี ทั้งหมดอยู่ในเรือนจำ


ยังไม่นับ คนดังที่ศาลตัดสินแล้ว แต่ตัวยังไม่ติดคุก คดียังไม่ถึงที่สุด เช่น


นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรข่าวชื่อดัง


นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ออกพาสปอร์ตให้กับนายทักษิณ ชินวัตร


นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีธรณีสงฆ์อัลไพน์ เอื้อประโยชน์เอกชน


นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรมช.คลัง สมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากสมัยเป็นรองอธิบดีกรมสรรพากร กรณีมีพฤติการณ์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อช่วยเหลือบุตรของนายทักษิณ ไม่ต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสียในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป เมื่อปี 2549 ศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุกนางเบญจา 3 ปี รอฟังคำตัดสินของศาลฎีกา


นายสุธรรม มลิลา อดีตบิ๊ก ทศท เอื้อประโยชน์แก่เอไอเอส ศาลปราบโกงพิพากษา ชั้นอุทธรณ์ จำคุก 6 ปี สั่งชดใช้ทีโอทีด้วย 4.6 หมื่นล้านบาท รอฎีกา ฯลฯ


ยุคนี้ เป็นยุคที่กรรมติดจรวดจริงๆ

 

 

 

 

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw