แฉเหตุเลื่อนประมูล'ดิวตี้ฟรี'

โดย ACT โพสเมื่อ Mar 19,2019

- - ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ - -

 

บิ๊กทอท.ยอม'นายกฯ-อาคม' ให้เกียรติความเห็นฝ่ายต้าน

 

เมื่อเวลา 10.30 น.  วันที่ 18 มี.ค. ที่สำนักงานใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. แถลงข่าวเกี่ยวกับแนวทางการให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ของ ทอท. กว่า 1 ชม. ว่า ทอท. ขอเลื่อนการเปิดจำหน่ายเอกสารการประมูล (ทีโออาร์) ดิวตี้ฟรีใน 4 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินเชียงใหม่ สนามบินภูเก็ต และสนามบินหาดใหญ่ ซึ่งรวม 1 สัญญา และการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิ 1 สัญญาออกไปก่อน จากเดิมเปิดจำหน่ายทีโออาร์วันที่ 19 มี.ค.-1 เม.ย. 62

 

เนื่องจากขณะนี้สังคมยังมีคำถาม และมีข้อห่วงใยจากรัฐบาล รวมถึงกระทรวงคมนาคม

 

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า ทอท.ให้เกียรติความคิดเห็นของทุกคน แต่จากการตีความข้อห่วงใยของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ได้เตือนว่าอย่าเร่งทำ ต้องทำให้ถูกต้องตามกระบวนการ อย่ารวบหัวรวบหาง เวลานี้สังคมยังมีความงง ๆ อยู่ อยากให้ทำความเข้าใจว่ามีการผูกขาดจริงหรือไม่ ซึ่ง ทอท. ยืนยันว่าทำถูกต้องแล้วทุกกระบวนการ ไม่ได้ดื้อ รัฐบาลบอกอะไรมา ทอท.ก็ฟัง เวลานี้ก็เลื่อนจำหน่ายทีโออาร์แล้ว จะทำให้ชัดเจนก่อน

 

นายนิตินัย กล่าวอีกว่า วันนี้ ทอท. ได้ชี้แจงข้อกังขาทุกข้อสงสัยแล้ว หลังจากนี้จะรอฟังว่าสังคมจะมีข้อโต้แย้งใด ๆ อีกหรือไม่ ถ้าฟังแล้วเป็นเรื่องเดิมไม่มีเหตุผลก็จะไม่นับว่าเป็นข้อโต้แย้งแล้ว แต่หากเป็นประเด็นใหม่ ๆ ที่มีเหตุผลมาหักล้างกับที่ชี้แจงไปแล้ว ทอท. จะเดินหน้าชี้แจงต่อไป โดยจะชี้แจงจนกว่าจะสะเด็ดน้ำ เพื่อให้ก้าวต่อไปจะได้ไม่มีข้อกังขาอีก เชื่อว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะเคลียร์ข้อสงสัยทั้งหมดได้ จากนั้น ทอท. จะประกาศวันจำหน่ายทีโออาร์ และกรอบเวลาการประมูลใหม่ แต่ทั้งนี้ ทอท. ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะให้ได้ตัวเอกชนผู้ชนะการประมูลไม่เกินเดือน ก.ย. 62 เพื่อให้เอกชนมีเวลา 1 ปีในการลงทุน และเปิดให้บริการได้ในเดือน ก.ย. 63

 

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า เท่าที่ดูจากข่าวตามสื่อต่าง ๆ ประเด็นการแยกประมูลตามหมวดสินค้าแทบไม่มีข้อติดใจใด ๆ จากสังคมแล้ว แต่การรวมดิวตี้ฟรี 4 สนามบินไว้ใน 1 สัญญา ยังมีผู้ไม่เห็นด้วย และมองว่าเป็นการผูกขาด โดยเรื่องนี้ขอยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการผูกขาด เพราะมีการเปิดเสรีเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Duty Free Pick-up Counter) ซึ่งการเปิดเสรีถือเป็นกุญแจสำคัญของการแข่งขันดิวตี้ฟรี โดยก่อนหน้านี้เคยเปิดเสรี Pick-up Counter ไปแล้วที่สนามบินภูเก็ต ทำให้มีร้านค้าปลอดอากรในเมือง (Downtown Duty Free) ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดมากกว่า 10 ราย จึงพูดได้เลยว่าธุรกิจดิวตี้ฟรีไม่ได้ผูกขาดมานานแล้วตั้งแต่ปี 57

 

นายนิตินัย กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่เลือกรวม 4 สนามบินเป็น 1 สัญญา เพราะทอท. ต้องการคัดตัวแทนทีมชาติไทย ไปแข่งขันโอลิมปิก ธุรกิจดิวตี้ฟรีเป็นธุรกิจที่ต้องแข่งขันกับผู้ประกอบการอื่นในระดับโลก การจะทำให้สนามบินมีสินค้าแบรนด์เนมให้บริการผู้โดยสารเหมือนสนามบินใหญ่ ทอท.จำเป็นต้องคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่สุด เพื่อให้แข่งขันในระดับโลกได้ หากสนามบินของไทยไม่สามารถแข่งขันได้ จะส่งผลเสียต่อประเทศชาติโดยรวม อย่างไรก็ตามหากย้อนดูยอดขายดิวตี้ฟรีของแต่ละสนามบิน พบว่า สนามบินสุวรรณภูมิ ยอดขายมากสุด 82% ขณะที่สนามบินหาดใหญ่ต่ำสุด 0.04% เชียงใหม่ 4-5% และภูเก็ต 13-14% ดังนั้นหากแยกสัญญาเป็นรายสนามบิน ถามว่าจะมีใครเข้ามาประมูลหรือไม่ เหล่านี้เป็นตัวเลขเชิงประจักษ์ ไม่ใช่ตัวเลขมโนแต่อย่างใด

 

นายนิตินัย กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าการจัดทำทีโออาร์ทั้ง 2 โครงการ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้องในทุกกระบวนการ มีฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของ ทอท. และประเทศที่จะได้รับเป็นสำคัญ รวมทั้งได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 5 มี.ค. 62 ที่กำหนดให้มีคนนอกร่วมอยู่ในกระบวนการด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบ และชี้แจงต่อสาธารณชนได้ โดยในวันที่ชี้แจงคุณสมบัติรายละเอียดเพิ่มเติมแก่เอกชนจะเชิญผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เข้าร่วมด้วย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่  15 มี.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ถึงกับเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจำกระทรวงคมนาคม หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมทบทวนการประมูลให้รอบคอบตามข้อห่วงใยของสังคม

 

โดยนายอาคม สั่งการให้ทอท. พิจารณาข้อห่วงใยและให้พิจารณาประเด็นกฎหมาย อาทิ เข้าข่ายพ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ และชะลอการประมูลออกไปก่อน แต่นายนิตินัย และนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานบอร์ดทอท. ออกมาสวนทันทีว่าจะไม่เลื่อนประมูลโดยจะเดินหน้าต่อ และจะนัดแถลงชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งในที่สุดก็มีท่าทีเย็นลงโดยเลื่อนประมูลเพื่อฟังความคิดเห็นจากสังคม หากยังเดินหน้าต่อจะเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับรัฐบาลเพราะความเห็นที่สวนทางกันระหว่าง 2 ขั้ว และต้านกระแสสังคมโดยเฉพาะช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง

 

 

 

 

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน