ประเด็นร้อน
เบื้องหลัง! รวบประมูล 4 สนามบิน
โดย ACT โพสเมื่อ Feb 21,2019
- - ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ - -
การเปิดประมูลสัมปทานร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) และการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กลายเป็นเค้กก้อนโตที่กำลังถูกจับตามอง พร้อมประเมินกันว่าจะมีการแข่งขันรุนแรงพอสมควร
ในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิ ทอท. จะนำพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่มีเกือบ 5 หมื่นตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่เชิงพาณิชย์อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ทั้งร้านค้าดิวตี้ฟรี และร้านค้าปลีก รวม 2.5 หมื่นตารางเมตร และพื้นที่เชิงพาณิชย์อาคารเทียบเครื่องบิน (Sattlelite 1) ประมาณ 2.4 หมื่นตารางเมตร มารวมไว้ในสัญญาเดียว
ทอท. เห็นว่า อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มีพื้นที่ใช้สอย 5 แสนตารางเมตร แต่มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทั้งค้าปลีกและดิวตี้ฟรี รวมกัน 2.5 หมื่นตารางเมตร หรือประมาณ 5% ของพื้นที่ใช้สอยโดยรวม ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสนามบินอื่นที่อยู่ที่ประมาณ 10-20% ของพื้นที่ใช้สอยโดยรวม ดังนั้น การเปิดประมูลครั้งนี้จึงมีการออกแบบพื้นที่เชิงพาณิชย์ในส่วนของอาคารเทียบเครื่องบิน ที่มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 2.5 แสนตารางเมตร ให้มีสัดส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์มากกว่าอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1
ส่วนการรวมร้านดิวตี้ฟรีในสนามบินภูมิภาคอีก 3 แห่ง คือ ภูเก็ต หาดใหญ่ และเชียงใหม่ ที่กลุ่มคิงเพาเวอร์ได้รับสัมปทานและจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2563 มาเปิดประมูลรวมเป็นสัญญาเดียวกับดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ เนื่องจาก ทอท. เห็นว่า สัดส่วนรายได้จากดิวตี้ฟรีเกือบ 95% เป็นรายได้จากสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่ สนามบินภูเก็ตมีสัดส่วนประมาณ 4% เชียงใหม่ 1% และหาดใหญ่อีก 1% ซึ่งถือว่าน้อยมาก หากแยกการประมูล ผู้ชนะการประมูลในสนามบินภูมิภาคอาจสู้รายใหญ่ไม่ได้ จึงเสนอให้รวมกับการประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ
ส่วนรูปแบบการประมูลดิวตี้ฟรีจะเป็นการคัดเลือกผู้ประกอบการรายเดียว หรือ ประมูลแยกตามหมวดสินค้า ทางฝ่ายบริหารมีการเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย เพื่อเสนอบอร์ดพิจารณา โดยคาดว่าจะสรุปผลการประมูลได้ภายในปลายเดือน ก.ย. นี้ เพื่อให้เวลาผู้ชนะเตรียมการในเรื่องของสต๊อกสินค้าล่วงหน้า 1 ปี ก่อนที่ ทอท. จะหมดสัญญากับคิงเพาเวอร์ ในวันที่ 27 ก.ย. 2563
#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน