ประเด็นร้อน
บทบรรณาธิการฐานเศรษฐกิจ: ปิดบัญชีจำนำข้าว เดินหน้าเรียกความเสียหายคืน
โดย ACT โพสเมื่อ Oct 11,2018
- - ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ - -
วันที่ 22 ต.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวหรือนบข. โดยองค์การคลังสินค้า(อคส.) เสนอให้นบข.พิจารณามูลค่าความเสียหายการรับจำนำข้าว ในส่วนสต๊อกข้าวคงเหลือ หลังจากรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ได้ระบายสต๊อกที่รับมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว 17.76 ล้านตันไปหมดสิ้นแล้ว โดยได้เงินจากการขายข้าวมาประมาณ 1.46 แสนล้านบาท
มูลค่าความเสียหายสต๊อกที่อคส.ประเมินเบื้องต้น 9 หมื่นล้าน โดยคำนวณจากราคากลางของข้าวสารแต่ละชนิดในสต๊อก หักออกด้วยราคาขาย เกิดเป็นส่วนต่างที่ต้องไปไล่เช็กบิลเรียกชดเชยเอาจากเจ้าของโกดัง คลังสินค้าที่รับฝากข้าวรัฐ รวมทั้งเซอร์เวเยอร์หรือผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าวประจำโกดัง แต่ตัวเลขนี้ยังเป็นตัวเลขความเสียหายที่น้อยเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับความเป็นจริง อคส.จะเสนอให้นำค่าเช่าโกดัง ค่าพลิกกอง รมยา รักษาคุณภาพข้าวมาคำนวณความเสียหายเพิ่มด้วย
นอกจากรายงานความเสียหายสต๊อกแล้ว ในส่วนคดีความติดตามฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ที่เจ้าของโกดัง เซอร์เวเยอร์ทำผิดสัญญาก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐตั้งแต่ปี 2554-2557 อคส.ได้ยื่นหนังสือทวงถามไป 244 สัญญา ส่วนใหญ่ถูกโต้แย้งจากคู่สัญญา โดยยืนยันไม่ได้กระทำผิดสัญญา แต่ความเสียหายเกิดขึ้นจากสต๊อกเสื่อมลงเองตามสภาพและระยะเวลาที่เก็บนานจนเกินไป โดยอคส.ได้ยึดหนังสือค้ำประกันสัญญาไว้บางส่วนแค่ 50 รายและเตรียมพิจารณาเลือกฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายเต็มจำนวนมากกว่ายึดหนังสือค้ำประกันสัญญา
รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ต้องสั่งการกำชับอคส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการติดตาม ทวงถาม ขยายผลคดีความกับผู้ที่สร้างความเสียหายให้กับเงินหลวง ในโครงการรับจำนำข้าวให้มากกว่านี้และเร็วกว่านี้ หลังจากที่ผ่านมา สูญเสียเวลาไปกับกระบวนการระบายข้าวและความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่อคส.ที่เป็นตัวการหลักในโครงการรับจำนำในส่วนการลงบัญชี และดูแลข้าวที่เข้า-ออกโกดัง
พล.อ.ประยุทธ์ยังต้องสั่งการให้ดำเนินการปิดบัญชีจำนำข้าวโดยไม่ชักช้า หลังจากได้ระบายขายข้าวจากโครงการจำนำออกไปจากสต๊อกหมดแล้ว พร้อมกับเปิดเผยข้อมูล แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดให้สาธารณชนได้รับทราบ เพื่อให้เป็นบทเรียนให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงความเสียหายต่องบประมาณของประเทศ ที่เกิดจากการดำเนินนโยบายที่ไม่รัดกุม เปิดช่องว่างให้เกิดการทุจริตอย่างมโหฬารที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ต้องให้เป็นบทเรียนที่ไม่กลับมาหลอกหลอนคนไทยซ้ำอีกครั้งในอนาคต
#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน