ประเด็นร้อน

ทุจริตบัตรประชาชน โทษไล่ออกจากราชการ

โดย ACT โพสเมื่อ Jul 31,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ - -

 

โดย : ลุงเป็นธรรม

 

เมื่อข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ระบุว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้รับคำขอและดำเนินการต่าง ๆ รวมทั้งอนุญาตทั้งในกรณีคำร้องขอแก้ไขชื่อ-สกุล ของ ด.ญ.ดะโพ ไม่มีชื่อสกุล เป็นนางสาว ส และกรณีนางสาว ส ยื่นคำขอมีบัตรครั้งแรก โดยมีบันทึกว่าผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้รับรอง แต่ไม่ปรากฏลายมือชื่อของผู้ใหญ่บ้าน และต่อมาผู้ใหญ่บ้านได้ให้การว่า ไม่เคยรับรอง ไม่เคยรู้จักหรือพบเห็นผู้ยื่นคำขอฯในหมู่บ้าน ทั้งยังไม่มีใบสูติบัตรหรือเอกสารหลักฐานอื่นแนบติดคำร้องเพื่อประกอบการพิจารณา  และเมื่อเปรียบเทียบลายมือชื่อของผู้ฟ้องคดีในแบบคำขอมีบัตร (แบบ บ.ป.1) ฉบับอื่น ๆ รวมทั้งบุคคลที่เคยปฏิบัติงานร่วมกับผู้ฟ้องคดีต่างให้ถ้อยคำว่า ลายมือชื่อในแบบคำขอมีบัตรรายนางสาว ส เป็นของผู้ฟ้องคดีจริง

 

นอกจากนี้ แบบคำขอมีบัตร (บ.ป. 1) ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้เฉพาะเจ้าหน้าที่ในงานบัตรประจำตัวประชาชน มิใช่เอกสาร ทั่วไปที่บุคคลใด ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ เมื่อปรากฏลายมือชื่อของผู้ฟ้องคดีลงในแบบ ย่อมทำให้วิญญูชนโดยทั่วไปเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อของผู้ฟ้องคดี และแม้ผลการพิสูจน์ลายมือชื่อยังไม่อาจลงความเห็นให้เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดได้ก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นลายมือชื่อปลอมตามที่กล่าวอ้าง และไม่ปรากฏ ว่า ผู้ฟ้องคดีได้รายงานหรือโต้แย้งต่อหัวหน้าฝ่ายทะเบียนว่ามีบุคคลอื่นปลอมลายมือชื่อของผู้ฟ้องคดี

 

ส่วนการที่ผู้ฟ้องคดียอมรับว่าเป็นผู้แจ้งหรือบอกรหัสของตนเองให้บุคคลอื่น ๆ ใช้งาน ผู้ฟ้องคดีต้องรับผิดชอบในกรณีที่ มีบุคคลอื่นนำรหัสของตนไปใช้ในการกระทำความผิดตามระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎรด้วยระบบ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2538 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2547 ข้อ 5/3 วรรคหนึ่ง

 

จึงฟังได้ว่าผู้ฟ้องคดีได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบ กฎหมาย เป็นเหตุให้บุคคลซึ่งไม่ทราบชื่อ-สกุล และสัญชาติได้ไปซึ่งบัตรประจำตัวประชาชน ย่อมทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบทางทะเบียนราษฎรและเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศชาติ

 

การกระทำของผู้ฟ้องคดีจึงเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ. 17/2560)

 

แต่ความสำคัญของการมีบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อยืนยันตัวบุคคลสำหรับคนไทยก็มิได้ลดลงไปแม้แต่น้อย

 

อันที่จริง...การยืนยันตัวบุคคลของคนไทยมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย...ครับ! โดยวิธี "การสักข้อมือ" เพื่อบอกสังกัดมูลนายของไพร่ แต่ถูกยกเลิกไปในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมา รัฐบาลในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้มีการตรากฎหมายบัตรประจำตัวประชาชนขึ้นใช้เป็นครั้งแรก เรียกว่า "พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พุทธศักราช 2486"

 

ด้วยความสำคัญดังข้างต้นนี่เอง...ทำให้เราท่านได้ยินข่าวอยู่เสมอว่า มีการทุจริตทำบัตรประจำตัวประชาชน (ปลอม) ให้กับบุคคลต่างด้าวบ้าง ใช้บัตรประจำตัวประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบัตรบ้าง ทำปลอมบัตรประชาชนเองบ้าง  และแม้ในอนาคตอันใกล้อาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเป็น "หลักฐาน" ในการติดต่อราชการ ตามนโยบาย Thailand 4.0  ของรัฐบาลที่จะให้ยกเลิกการใช้สำเนาบัตรประชาชน และให้เปิดใช้แอพพลิเคชั่นบอกข้อมูลบริการแทน ภายในเดือน ส.ค. 2561 ก็ตาม

 

ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ใดหรือหน่วยงานของรัฐแห่งใดย่อมต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อคุ้มครองป้องกันและรักษาประโยชน์ของราชการ การอาศัยโอกาสที่ตนมีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบหรือปฏิบัติหน้าที่โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ระเบียบที่กำหนดแนวปฏิบัติไว้ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ไปซึ่งประโยชน์ที่มิควรได้ หรือจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง นอกจากจะเป็นการทำลายอนาคตทางราชการของตนเองแล้ว หากหน้าที่ที่ต้องปฏิบัตินั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ของประชาชนชาวไทยพึงได้รับความคุ้มครองจากรัฐเป็นการเฉพาะ การช่วยเหลือหรือดำเนินการเพื่อให้บุคคลที่ไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์หรือได้รับความคุ้มครองเฉกเช่นเดียวกับประชาชนชาวไทย ไม่เพียงแต่จะกระทบต่อความไว้วางใจต่อระบบราชการเท่านั้น แต่ยังเป็นการ "ทำลายความมั่นคงของชาติไทย" อีกด้วย...ครับ !!.

 

รู้ทัน...กฎหมายทะเบียนราษฎร

 

ตามระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎรด้วยระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2538 แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎรด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2547 ข้อ 5/3 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า นายทะเบียนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนราษฎรทุกคนต้องเก็บรักษารหัสผ่านของตนไว้เป็นความลับ หากมีการปฏิบัติโดยมิชอบหรือความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นอันเนื่องจากการใช้รหัสผ่าน เจ้าของรหัสผ่านนั้นต้องรับผิดชอบในทุกกรณี

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
 
 

#ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw