ประเด็นร้อน
รีบขจัดคอร์รัปชัน
โดย ACT โพสเมื่อ Jul 20,2018
- - ขอบคุณข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์ - -
คดีทุจริตรวมถึงการให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในประเทศไทยไม่ เคยจางหายไปจากสังคมไทย มีหลายร้อยเรื่องหลายพันคดีอยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวน โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมีหลายคดีที่ถูกเปิดเผยในต่างประเทศ อย่างคดีสินบนโรล-รอยซ์อันอื้อฉาว ซึ่งถูกเปิดเผยเมื่อเดือน ม.ค. 2560 โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวนของ ป.ป.ช.เช่นเดียวกัน
คดีสินบนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดกับองค์กรขนาดใหญ่ของประเทศ เช่น กรณีโรลส์-รอยซ์เกี่ยวพันกับบริษัท การบินไทย สายการบินแห่งชาติของไทย รวมทั้งบริษัท ปตท. บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ของคนไทยเช่นเดียวกัน ล่าสุดสำนักงานสืบสวนพิเศษของอัยการกรุงโตเกียวอยู่ระหว่างการสอบสวนบริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ หรือ MHPS กรณีการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ทางการไทย ในกรณีอำนวยความสะดวกในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนเมื่อปี 2556
กรณีดังกล่าวหลายหน่วยงานได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ บริษัท ผลิตไฟฟ้า รวมทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และจากการตรวจสอบเบื้องต้นของกระทรวงพลังงานเป็นการให้สินบนในส่วนของการขนส่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้า มีชื่อของกรมเจ้าท่าเข้ามาเกี่ยวข้องในการใช้ท่าเรือเพื่อรับส่งอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่ง ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เร่งดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
ข้อกล่าวหาเรื่องการติดสินบนของเจ้าหน้าที่ของรัฐไทยเพื่อชนะการประมูล หรือได้เข้าบริหารจัดการโครงการของรัฐมีมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์การทุจริตและคอร์รัปชั่นในสังคมไทยที่ไม่ต้องให้ใครมาจัดอันดับ ยิ่งมีความน่าเป็นห่วงมากขึ้น เมื่อรัฐบาลชุดนี้เข้ามาผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านคมนาคม มูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท และการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีการลงทุนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท รวมทั้งการประมูลโครงการขนาดใหญ่ เช่น รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ ที่เปิดให้เอกชนทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาประมูลแข่งขันกันได้
โครงการเมกะโปรเจกต์เหล่านี้ล้วนเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าโครงการหลายล้านล้านบาท หากไม่วางแนวทางป้องกันการทุจริต การให้สินบนเจ้าหน้าที่อย่างรัดกุม ยังปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นอีก เชื่อว่าหลังจากนี้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นจะอยู่แถวหน้าของโลก และเป็นปัญหาแก่นักลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามาทำลงทุนในประเทศไทยต้องคิดหนัก
แม้คดีทุจริตหลายคดีไม่ได้เกิดภายใต้รัฐบาลชุดนี้ แต่หนึ่งในภารกิจสำคัญของการเข้ามาบริหารประเทศของหัวหน้าคณะ คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือการเข้ามาปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายหลายแสนล้านบาทให้กับประเทศไทย เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องให้ความสำคัญและเร่งผลักดันการตรวจสอบการทุจริตทั้งโครงการใหม่และโครงการเก่า เอาผิดและลงโทษเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องอย่างรุนแรง เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามทุจริต
หากสามารถดำเนินการได้ตามที่ประกาศไว้ เชื่อว่าไม่เพียงภาพลักษณ์ของประเทศไทยจะดีขึ้น ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรใหม่ของไทยในอนาคตอีกด้วย
#ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน