Hot Topic!
ไทม์ไลน์ 'ทุจริตเงินทอนวัด'
โดย ACT โพสเมื่อ Sep 22,2017
- - สำนักข่าวไทยโพสต์ - -
การตรวจสอบการทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดที่หายเงียบไประยะหนึ่ง กลับมาอีกครั้งอย่างเซอร์ไพรส์ หลังจาก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เจอกระแสคัดค้านจากพระเถระชั้นผู้ใหญ่และฆราวาสบางกลุ่มอย่างหนักหน่วง จนที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัดสินใจเปลี่ยนตัว ผอ.พศ.คนใหม่ เพื่อลดการกระทบกระทั่ง จนเกิดกระแสความไม่พอใจจากสังคม และมีการแสดงความกังวลว่า การตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวัดอาจสะดุด เพราะนโยบายของรัฐบาลต้องการลดการเผชิญหน้ากับพระ
ล่าสุดปฏิบัติการตรวจค้นบ้านผู้บริหาร พศ. กลับมาอีกครั้ง ภายหลัง พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.บก.ปปป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ ปปป. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กองปราบปรามสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และเจ้าหน้าที่สรรพากร นำหมายค้นของศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 199/8 หมู่บ้าน BANGKOK BOULVEVARD ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม ของ นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. และจุดอื่นๆ รวมกัน 14 จุด ใน 7 จังหวัด
การตรวจค้นครั้งนี้ถือว่าเว้นระยะห่างจากครั้งแรกนานถึงร่วม 3 เดือน หลังจากครั้งแรก ปปป. เคยนำกำลังตรวจค้นบ้าน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. และจุดอื่นๆ รวมกัน 10 จุด เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2560
ต่อมากลางเดือนมิถุนายน ปปป. ได้สรุปสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัด 12 แห่ง พบว่า มีผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ประกอบด้วย นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ ข้าราชการระดับ 8 พศ., นางณัฐฐาวดี ตันตยาวิสารสุทธิ์ อดีตนักวิชาการชำนาญ พศ., นายศิวโรจน์ ปิยะรัตน์เสรี อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านอ้อ จ.ลำปาง, นายฐานพัฒน์ ม่วงทอง นางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.พศ., นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ., นางสุภัชชา จันฤๅไชย และ น.ส.อุบล ดิษฐ์ด้วง และข้าราชการอีก 2 คน แต่ไม่เปิดเผยชื่อ
19 มิถุนายน หลังสรุปสำนวนเสร็จสิ้น ปปป.ได้นำสำนวน 12 คดี ไปส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวน
21 มิถุนายน องค์กรพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1/2560 แสดงความไม่พอใจรัฐ พร้อมประกาศให้วัดทั้งในและนอกประเทศไม่ขอรับเงินสนับสนุนใดๆ จาก พศ. สำนักนายกรัฐมนตรี
27 มิถุนายน ปปป.ขยายผลพบวัดที่เข้าข่ายการกระทำความผิดทั่วประเทศไทยอีก 476 วัด โดยมีพฤติการณ์เดียวกันกับ 12 สำนวนแรก
29 มิถุนายน พ.ต.ท.พงศ์พรมีหนังสือ "ด่วนที่สุด" ถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศ ให้มีการตรวจสอบจำนวนนักเรียนของโรงเรียนพระปริยัติธรรมหลังถูกร้องเรียนว่ามีการแจ้งจำนวนนักเรียนเป็นเท็จ
4 กรกฎาคม ปปป.นำพนักงานสอบสวนเดินทางไปที่วัดพิชยญาติการาม หลังพบข้อมูลว่าได้รับงบอุดหนุนวัดด้านบูรณปฏิสังขรณ์ จาก พศ. ในปี 2549 จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อสอบปากคำพระราชรัตนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม และเจ้าหน้าที่วัดที่ดูแลการเงินอีก 2 คน ขณะที่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัด มีอาการอาพาธ
11 กรกฎาคม ปปป.สรุปสำนวนการทุจริตงบประมาณ พศ. ที่อุดหนุนไปยังวัดต่างๆ ไปให้ พศ.ตั้งกรรมการและขยายผลตรวจสอบต่อ โดยอ้างว่าเพราะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ถูกกดดัน
13 กรกฎาคม พ.ต.ท.พงศ์พรไปร่วมงานพิธีสวดถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่วัดเทพศิรินทร์ แต่ไม่มีการเชิญเข้าร่วมกิจกรรมในพิธี ทั้งที่ตามปกติจะต้องมีการเชิญ ผอ.พศ. ขึ้นจุดธูป เทียน
17 กรกฎาคม องค์กรพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทยออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2560 ขอให้ทุกวัด และโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาทุกแห่งภายในประเทศและต่างประเทศขึ้นป้ายไม่ขอรับเงินอุดหนุนใดๆ จาก พศ. จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำ พศ. คือ พ.ต.ท.พงศ์พร
18 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ชื่นชมการทำงานของ พ.ต.ท.พงศ์พร พร้อมยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดจะปลดออกจากตำแหน่ง
20 กรกฎาคม คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน 3 อดีตผู้บริหาร พศ. ส่อว่าทุจริตเบิกจ่ายเงินงบประมาณในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ประกอบด้วย นายนพรัตน์ นายพนม และ นางประนอม โดยมีนายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ส่วนอีก 11 คดี มอบหมายให้คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงก่อน
7 สิงหาคม นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ทำหนังสือถึงนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล พศ. เพื่อให้ปลด พ.ต.ท.พงศ์พรออกจากตำแหน่ง จากกรณีสร้างความเสื่อมเสียให้กับพระพุทธศาสนา
13 สิงหาคม มีรายงานจากสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งว่า เตรียมจะสรุปสำนวนคดีทุจริตทอนวัดในส่วนของอดีตผู้บริหาร พศ. จำนวน 3 ราย ในเดือนตุลาคมนี้
29 สิงหาคม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติโยกย้าย พ.ต.ท.พงศ์พรไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และให้นายกนก แสนประเสริฐ รอง ผอ.พศ. รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผอ.พศ.
5 กันยายน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งนายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มาดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ.คนใหม่ ทั้งนี้ ให้มีผลนับแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
20 กันยายน ปปป.แจ้งผู้สื่อข่าวว่า ในวันที่ 21 กันยายนจะเดินทางไป จ.นครปฐม หลังได้รับข้อมูลวัดต้องสงสัย 2 แห่ง ที่มีการหมุนเวียนเงินทุจริตมากกว่า 2 ล้านบาท พร้อมกับจะตรวจค้นบ้านอดีตผู้บริหาร พศ. ที่พัวพันกับคดีนี้
จะเห็นว่า การตรวจค้นครั้งนี้กับครั้งแรกมีระยะเวลาห่างกันนานถึง 3 เดือน และเกิดขึ้นภายหลังจากมีการแสดงความกังวลจากสังคมว่า การตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัดจะสะดุดหลังจากเด้ง พ.ต.ท.พงศ์พร ออกจากตำแหน่ง ผอ.พศ. และเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ใหญ่ในรัฐบาลอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กำลังเผชิญกับมรสุมอย่างหนัก หลังมีการเรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีความคุ้มค่าในการจัดซื้อเรือเหาะกองทัพบกเมื่อปี 2552 และกรณีกระทรวงมหาดไทยอนุมัติให้เอกชนเช่าพื้นที่ป่าชุมชนทำโรงงานที่ห้วยเม็ก อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน