ปราบคอร์รัปชันต้องทำจริง

โดย ACT โพสเมื่อ Jan 31,2019

- - ขอบคุณข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์ - -

 

การเปิดเผยดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันทั่วโลกประจำปี 2561 (ซีพีไอ) โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ นับว่าเป็นความน่าผิดหวังของประเทศไทย ที่มีอันดับลดลงมาถึง 3 ขั้น อยู่ในอันดับที่ 99 จาก 180 ประเทศทั่วโลก ส่วนคะแนนลดลง 1 คะแนนจากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 36 คะแนน

 

หากดูเทียบใกล้ๆ แค่ในกลุ่ม 10 ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนด้วยกันจะพบว่า มีเพียงแค่ไทยกับเวียดนามเท่านั้นที่ทำผลงานอันดับได้ ลดลง และไทยยังตกจากที่ 5 ของกลุ่มเมื่อปี 2560 ลงไปอยู่ที่ 6 เพราะถูกฟิลิปปินส์แซงหน้าจากการขยับขึ้นมาได้ถึง 12 อันดับ

 

สิ่งที่น่าผิดหวังนั้นไม่ใช่แค่เรื่องอันดับหรือคะแนนของไทยที่ลดลง แต่เป็น "โมเมนตัม" การต่อต้านคอร์รัปชั่นที่หายหรือลดลงไป ทั้งที่กระแสเคยดีขึ้นมามากในปี 2560 ที่ผ่านมา จนสร้างความหวังให้พวกเราคนไทยในขณะนั้นว่า ประเทศไทยเองก็น่าจะสามารถต่อสู้กับการทุจริตได้เหมือนในประเทศอื่นๆ เขาบ้าง

 

ทั้งนี้ หากจะดูเรื่องดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น อาจต้องดูย้อนลงไปสัก 4-5 ปีให้หลังเพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการของเราว่าดีขึ้นหรือแย่ ลงอย่างไร ซึ่งของไทยนั้นค่อนข้างจะขึ้นๆ ลงๆ เมื่อเทียบกับภูมิภาค

 

ย้อนไปในปี 2557 ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของไทยมีคะแนนอยู่ที่ 38 คะแนน และทรงตัวต่อไปอีกปีจนมาลดลงเหลือ 35 คะแนนในปี 2559 แต่สถานการณ์พลิกกลับมาดีขึ้นมากในปี 2560 โดยมี 37 คะแนน และอยู่อันดับที่ 96

 

ในปีนั้นมีความเคลื่อนไหวหลายอย่างที่ทำให้การต่อต้านคอร์รัปชั่นในไทยดีขึ้น อาทิ การผ่านร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กำหนดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ผ่านโครงการข้อตกลงคุณธรรม และโครงการเพื่อความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ

 

ในช่วงปลายปีเดียวกันนั้น รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องยังได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า ภายในปี 2564 ซึ่งจะเป็นปีสุดท้ายของการใช้ยุทธศาสตร์ระยะที่ 3 ซีพีไอของประเทศไทยจะต้องมีคะแนนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 50 คะแนน หรือสูงกว่า ดังนั้น จึงมีการกำหนดวาระแห่งชาติ คือ ยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งต้องสร้างให้คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต โดยตั้งแต่ปี  2560-2564 ได้วางแผนในการใช้ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ

 

ทั้งนี้ แม้ว่าในรายละเอียดของความพยายามต่อต้านการคอร์รัปชั่น อาจปรับตัวดีขึ้นจริง แต่ดัชนีซีพีไอคือตัวสะท้อน "การรับรู้ของประชาชน" ทั้งคนไทยและต่างชาติว่ามองเห็นการคอร์รัปชั่นในประเทศเป็นอย่างไร โดยส่วนหนึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ๆ ที่สังคมเข้าใจว่าเป็นการคอร์รัปชั่น แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ

 

หากพูดถึงยุทธศาสตร์ต้านโกงระดับชาติแล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่าเพื่อนบ้านเราอย่าง "มาเลเซีย" ก็เพิ่งประกาศยุทธศาสตร์ต่อต้านคอร์รัปชั่นในระดับชาติเช่นกัน โดยเป็นแผนระยะ 5 ปี มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการ ทุจริตใหม่ๆ ไม่ให้เกิดขึ้น โดยมีบทเรียนมาจากการทุจริตครั้งใหญ่ในกองทุนวันเอ็มดีบี ที่เป็นชนวนหนึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาลใหม่มาแล้ว

 

โมเมนตัมที่สะท้อนจากผลสำรวจในครั้งนี้เป็นที่แน่นชัดว่าผู้อาสามาปราบคอร์รัปชั่นนั้นสามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในช่วงที่ผ่านมาได้มากน้อยแค่ไหน และทิศทางของประเทศไทยในประเด็นนี้จะสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นจริงหรือไม่  สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนอยู่ในสายตาของประชาชน

 

 

 

 

 

 

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน