'หมอธี' ส่งชื่อกก.สอบวินัยเอี่ยวทุจริต 'อควาเรียม' ถึง 'บิ๊กตู่'

โดย ACT โพสเมื่อ Sep 20,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า - -

 

19 ก.ย. 61  นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 3/2561 โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ว่า 

ในวันนี้ ตนได้เซ็นลงนามแต่งตั้งประธานคณะกรรมการสอบวินัย พร้อมเสนอชื่อกรรมการสอบวินัย ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโครงการสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ อควาเรียม ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เรียบร้อยแล้ว ส่วนนายกฯจะแต่งตั้งตามที่ตนเสนอไปหรือไม่ตนไม่ทราบ ส่วนผู้ที่ถูกสอบวินัยในเรื่องนี้เป็นข้าราชการระดับสูงของศธ.และกรมประมง ส่วนอีก 5 หน่วยที่เกี่ยวข้อง ที่ขณะนี้ต้นสังกัดยังไม่ส่งเรื่องกลับมาให้ศธ. แต่ตนก็ได้ส่งผลที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสรุปไปให้กับนายกฯด้วยแล้ว ดังนั้น เมื่อนายกฯพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยแล้ว ทางคณะกรรมการสอบวินัยก็จะเร่ิมดำเนินการต่อไป

“เมื่อวานท่านนายกฯก็ออกมาประกาศชัดเจน ว่าเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ถ้าใครทุจริต แต่นี่ยังอยู่ในขั้นสอบ ถ้าผลสอบออกมาพบว่าผิด นายกฯบอกว่าถ้าโกก็ให้ออกจากราชการไปเลย” รมว.ศธ. กล่าว

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า ผู้ทรงคุณวุฒิ ปปง.ได้แจ้งว่า ขณะนี้ได้ยึดทรัพย์ นางรจนา สินที อดีตข้าราชการระดับ 8 ศธ.ที่ถูกไล่ออกจากราชการแล้ว กรณีโกงเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ขณะนี้ทาง ปปง.ได้ยึดทรัพย์จำนวน 108 ล้านบาท ถึงแม้ทรัพย์ที่ยึดได้จะติดจำนองก็ยังถือว่าเป็นทรัพย์ที่มีมูลค่าอยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนห่วงเรื่องคดีละเมิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ที่จะต้องดำเนินการต่อไป

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ให้คำแนะนำเรื่องการปราบทุจริตภายในกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ทันทีที่คดีมีมูล อย่างไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แต่ขอให้แจ้งที่  กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.)ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สามารถเข้ามาดำเนินการในขั้นตอนสืบแกะรอยเส้นทางเงินได้เลย ก่อนที่ ปปง.จะเข้ามาชี้มูล ดังนั้น วันนี้ ตนจึงมีคำสั่งว่า ต่อไปนี้คดีที่มีเค้าว่าโกงเกิดขึ้น ก็ให้ ปปป.เข้ามาดำเนินการสอบพร้อมๆกับที่หน่วยงานต้นสังกัดสอบได้เลย  นอกจากนี้ทุกครั้งที่มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริตฯ ขอให้ผู้บริหารองค์กรหลักเข้าร่วมประชุมด้วยทุกครั้ง ไม่ใช่มีแต่ข้าราชการการเมือง 

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)มีเรื่องที่จะต้องตรวจสอบหลายเรื่อง แต่บางใช้เวลาตรวจสอบนานเป็นปี วันนี้ตนจึงได้กำชับให้ สพฐ.ทำการตรวจสอบตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระบบราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2561 อย่างเคร่งครัด ส่วนการสอนวินัย ซึ่งสพฐ.ให้เวลาในการสอบ 180 วัน ก็ให้ดำเนินการสอบวินัยให้เสร็จตามมตรการ คสช.ให้เสร็จภายใน 30 วัน โดยให้ดำเนินการอย่างเคร่งคัด ซึ่งถ้าทำไม่ได้จริงๆเราก็ยืดหยุ่น และทำให้ได้จริงๆ ไม่ใช่ไม่ทำ 

 “ในที่ประชุมชมว่า ศธ.เอาจริงในเรื่องการปราบทุจริต และองค์กรอื่นให้ข้อสังเกตุว่าคดีโก่งของกระทรวงศึกษาฯ มีความซ้ำกัน  เช่น จัดซื้อจัดจ้างโกงแบบซ้ำๆ แป๊ะเจี๊ยะโกงแบบซ้ำ ๆ และกองทุนเสมาฯที่ทำแบบซ้ำ ๆ ดังนั้น จะต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต โดยจะต้องวางระเบียบเพื่อว่าเมื่อเราไม่อยู่แล้วคนที่จะทำผิดก็ทำได้ยากขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม เพราะศธ.มีมาตรการปราบโกงชัดเจนแล้วแต่มาตรการป้องปรามยังมีไม่เยอะ” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

 

 

 

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน