ไม่รับฎีกา หลังศาลแพ่งสั่งเอวีเอฯ ชดใช้กรมราชองครักษ์ 9 ล้าน ซื้อเครื่องจีที200

โดย ACT โพสเมื่อ Sep 18,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา - -

 

ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง บ.เอวีเอแซทคอมฯ ยื่นฎีกาสู้คดีขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 หลังศาลแพ่งสั่งชดใช้เงินกรมราชองครักษ์ 9 ล้าน พร้อมค่าทนายความ 2 หมื่น เหตุเครื่องมีปัญหาไม่สามารถใช้งานได้ ด้านโฆษก กห.ปัดให้ความเห็นขอดูคำพิพากษาก่อน

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภค ได้ตัดสินคดีความแพ่งระหว่าง กรมราชองค์รักษ์ ซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์ กับ บริษัทเอวีเอ แซทคอม จำกัด ในฐานะจำเลยที่ 1 นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ จำเลยที่ 2 นายเดชพิภัทร์ วัฒนกิจ จำลยที่ 3 นางศศกร ปลื้มใจ จำเลยที่ 4 และ น.ส.พันธวีทรัพย์ สุดยาใจ จำเลยที่ 5  ในคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับอาวุธวัตถุระเบิดและยาเสพติดรุ่น GT200 จำนวน 2 ชุด วงเงิน1.8 ล้านบาท เครื่องตรวจสารระยะไกลและอุปกรณ์ยี่ห้อ Global Technical รุ่น GT200 จำนวน 3 ชุด วงเงิน 3.6 ล้านบาท เครื่องตรวจหา สสาร ระยะไกลและอุปกรณ์ยี่ห้อ โกลบอล รุ่น จีที 200 จำนวน 30 ชุด วงเงิน 3.6 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 9 ล้านบาท ที่มีปัญหาไม่สามารถใช้การได้ 

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลแพ่ง ได้มีคำพิพากษาให้ บริษัท เอวีเอ แซทคอมฯ ชำระเงินจำนวน 9 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.2557 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนกรมราชองค์รักษ์ โดยกำหนดค่าทนายความ 20,000 บาท แต่จำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา พร้อมฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ 

โดยศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ปัญหาตามฎีกาของจําเลยที่ 1 ในข้อที่ว่า การที่ศาลชั้นต้นกําหนดประเด็นข้อพิพาทว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่โดยไม่ได้กล่าวเฉพาะเจาะจงว่าขาดอายุความเรื่องใด ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคจึงต้องวินิจฉัยทุกประเด็นที่เกี่ยวกับอายุความ คดีนี้โจทก์ทราบเรื่องที่เครื่องตรวจจับอาวุธ ไม่สามารถทํางานได้เมื่อวันที่ 2 และ 3 กุมภาพันธ์ 2551 โจทก์อาจใช้สิทธิเรียกร้องได้ ภายในเวลา 1 ปี นับแต่ดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/32 โจทก์ก็นําคดีมาฟ้องวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 คดีโจทก์จึงขาดอายุความ

จําเลยที่ 1 ไม่อาจทราบรายละเอียดสินค้าได้ทุกประเภท จึงไม่ทราบว่าเครื่องตรวจจับอาวุธดังกล่าวมีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่ระบุในสัญญา โจทก์จึงไม่อาจอ้างเรื่องสําคัญผิดในสาระสําคัญของนิติกรรมเพื่อให้สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะได้หรือไม่นั้น ไม่เป็นปัญหาสําคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 244 วรรคสองและข้อกําหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการขออนุญาตฎีกาในคดีแพ่ง พ.ศ. 2558 ข้อ 13 อันเป็นบทกฎหมายที่ใช้บังคับแก่การฎีกาคดีผู้บริโภคโดยอนุโลม ตามพระราชบัญญัติ วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 51

จึงมีคําสั่งไม่อนุญาตให้จําเลยที่ 1 ฎีกา ยกคําร้องและไม่รับฎีกาของ จําเลยที่ 1 คืนค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาทั้งหมดแก่จําเลยที่ 1 ค่าฤชาธรรมเนียมอื่นชั้นฎีกา

สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 16 กรกฎาคม 2535 ทุนปัจจุบัน 473,372,800 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 19 ถนนพหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจให้บริการพัฒนา ออกแบบ ประกอบ ติดตั้ง ซ่อมบำรุง ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ขายปลีกคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง ซอฟต์แวร์ และอุปกรสื่อสารโทรคมนาคม

ปรากฎชื่อ นางมณฑิรา วัฒนกิจเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ  น.ส. พัลลภา พจน์ชพรกุล  นาง นัทธภัทร คงเจริญ  นาย ดอน อ๊อคเก เอียนสเต็ด  นาง มารี หลุยส์ เอ็ททามา  นาย ศรายุทธ ทุมทา เป็นกรรมการ 1 บริษัท ลิบราเวย์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 

นำส่งข้อมูลงบการเงิน ณ 30 ธ.ค.2560 แจ้งว่า มีรายได้รวม 188,988,671.34 บาท รวมรายจ่าย 132,381,122.57 บาท กำไรสุทธิ 47,156,480.86 บาท 

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อกรณีนี้ พล.ต.คงชีพ กล่าวสั้นๆว่าในขณะนี้ยังไม่เห็นเอกสารคำตัดสินของศาลเลยตอบอะไรมากไม่ได้ ต้องขอดูคำพิพากษาให้ละเอียด เพราะนี่เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่ขอยืนยันว่าทางด้านฝ่ายทหารก็ทราบพร้อมๆกับที่ต่างประเทศพิสูจน์ทราบว่าเครื่องตรวจจับระเบิดจีที 200 นั้นมีปัญหา หน่วยงานทางทหารก็เลยต้องขยับเพื่อจะดำเนินการทางกฎหมายกันทั้งหมด

"ส่วนการฟ้องร้องนั้นก็ให้หน่วยงานทหารแต่ละหน่วยเขาดำเนินการกันไป สำหรับกรณีที่ศาลฎีกามีคำตัดสินออกมาว่าฝ่ายโจทนั้นทราบว่าเครื่องตรวจจับระเบิดไม่สามารถทำงานได้ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ปี 2551 นั้น เรื่องนี้คงไม่ขอแสดงความเห็นอะไร แต่ขอดูเอกสารกันก่อนดีกว่า เชื่อว่า ในการประชุมสภากลาโหมครั้งหน้า คงจะต้องมีการนำเรื่องนี้เข้าเข้ามาพูดคุย หารือกันด้วย”พล.ต.คงชีพกล่าว

 

 

 

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน